
ความเข้าใจผิด เรื่องมูลค่าการถือครอง กับ ปริมาณ net sell โดยต่างชาติ
ตามที่ FETCO และ ThaiBMA Investment Forum 2025 ได้จัดงานสัมมนาให้หัวข้อ จัดทัพลงทุนฝ่าคลื่นความเปลี่ยนแปลง วันที่ 14 ก.ค. 2025 ที่ผ่านมา
ตามที่ FETCO และ ThaiBMA Investment Forum 2025 ได้จัดงานสัมมนาให้หัวข้อ จัดทัพลงทุนฝ่าคลื่นความเปลี่ยนแปลง วันที่ 14 ก.ค. 2025 ที่ผ่านมา โดยคุณไพบูลย์ นลินทรางกูร ดร.สมจินต์ ศรไพศาล และ คุณชยนนท์ รักกาญจนันท์
ในช่วงเริ่มสัมมนา คุณไพบูลย์ ได้มีการพูดถึงเรื่องการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ และบอกว่ายอดการซื้อขายของนักลงทุนสุทธิรายวัน
“ไม่สามารถนำมาชี้วัดการถือครองของหุ้นไทยโดยนักลงทุนต่างชาติได้”
โดยให้เหตุผลว่า ยอด net sell ที่เห็น ๆ กัน มาจากการ day trade มาจาก program trade ของนักลงทุนต่างชาติ เป็นหลัก และไม่ได้มาจากการขายของนักลงทุนต่างชาติที่ถือหุ้นไทยจริง ๆ
และได้มีการนำเสนอข้อมูลการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ที่วัดจากมูลค่าของการถือหุ้น และแสดงให้เห็นว่าการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มสูงขึ้นในช่วยระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับยอด net sell ของนักลงทุนต่างชาติ ที่ได้การขายหุ้นไทยไปมากกว่า 4 แสนล้าน ตั้งแต่ปี 2023 –ปัจจุบัน (31 ก.ค. 68)
สรุปสั้น ๆ ตรงนี้ ปี 2023 ขายสุทธิ –192,083 ล้านบาท ปี 2024 ขายสุทธิ –146,906 ล้านบาท และล่าสุด YTD ขายสุทธิ 6-7 หมื่นล้านบาท ยอดรวมทั้งหมด 4 แสนล้านบาท
แต่ที่น่าแปลกใจ ในฐานะที่มีความรู้และดีกรี นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ฯลฯ และไม่คิดว่า คุณไพบูลย์ไม่น่าจะตีความข้อมูลขั้นพื้นฐานของเรื่องจนผิดเพี้ยนไปได้ถึงเพียงนี้
เพราะมันเป็นข้อมูลความเข้าใจพื้นฐานที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปเผยแพร่สู่สาธารณชน อย่างน้อย ๆ ควรทำความเข้าใจก่อน ไม่ใช่พูดโดยไม่ไตร่ตรองข้อมูลให้ดี
จริง ๆ แล้ว ข้อมูลชิ้นนี้ ไม่ได้มีความซับซ้อนยาก หรือ ซับซ้อนอะไรเลย เพราะมันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่หาได้ง่าย ๆ
การใช้ข้อมูล จากความเชื่อผิด ๆ ของตัวเองนั้นส่อให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจ และส่อไปถึงการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดในข้อมูลที่นำมาเสนอ
คนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น ควรต้องเข้าใจอยู่แล้ว ยิ่งประเด็นที่เป็นแมส ที่สร้างความวุ่นวายให้นักลงทุนในวงกว้าง ยิ่งไม่น่าพลาดได้ เพราะไม่จำเป็นต้องคิดเอง เพราะมีคนเขียนและถกเถียงประเด็นนี้อย่างกว้างขวางอยู่แล้ว สามารถนำข้อมูลคนอื่นมาพูดได้ ดีกว่าพูดมั่วและแสดงถึงความตื้นเขินในตัวเอง
ข้อเท็จจริงที่เห็นว่าสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร เพราะหลัก ๆ เป็นปรากฏการณ์ของหุ้น DELTA ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 30 เท่าตั้งแต่ปี 2020 ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยโดยนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นมา (แม้จะไม่มีการซื้อหุ้นจริงเพิ่ม)
นักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้น DELTA ในสัดส่วนที่มากกว่า 95% (หุ้น Foreign + หุ้น NVDR) และด้วยขนาดของหุ้น DELTA ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่า Market Cap ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย ทำให้ตัวเลขการถือครองหุ้นไทยที่แท้จริงถูกบิดเบือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ได้ถูกพูดถึงในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย
(ดูตารางประกอบ) ทั้งนี้ หากลองดูตัวเลขการถือครองหุ้นไทยโดยนักลงทุนต่างชาติ โดยเอาหุ้น DELTA ออกแล้ว (เส้นล่าง) จะเห็นว่าสัดส่วนการถือครองยังเป็น trend ขาลงอยู่ ซึ่งสอดคล้อง กับตัวเลข net buy-sell รายวันที่ ตลท.รายงาน
บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาจะ discredit ใคร เพียงแต่จะมุ่งเน้นในการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักลงทุนทั่วไป เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในวงกว้าง ไม่ใช่การออกมาแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อมูลโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการไตร่ตรองข้อเท็จจริงและความน่าจะเป็นก่อนออกสื่อ
สุดท้าย ขอแสดงความยินดี กับคุณไพบูลย์ ที่ได้รับเลือกให้เป็น กรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ รายใหม่นี้ด้วยค่ะ
อึ้งย้ง