
‘เกาหลีใต้’ กับ Work Life Balance
“รัฐบาลเกาหลีใต้” ภายใต้การนำของประธานาธิบดีอีแจ-มยอง มีการแผนวาง Roadmap ลดชั่วโมงทำงานให้คนในประเทศ แต่เป็นการทำอย่างระมัดระวัง
“รัฐบาลเกาหลีใต้” ภายใต้การนำของประธานาธิบดีอีแจ-มยอง มีการแผนวาง Roadmap ลดชั่วโมงทำงานให้คนในประเทศ แต่เป็นการทำอย่างระมัดระวัง โดยไม่มีการกำหนดบังคับใช้โดยกฎหมาย เหตุกังวลว่าอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางลบหรือทำให้เกิดผลผลิตที่ไร้ประสิทธิภาพบางอุตสาหกรรมได้
แผนการเกาหลีใต้ คือ กำลังพิจารณาหาแนวทางลดการทำงานให้เหลือเพียงแค่ 4 วันครึ่งต่อสัปดาห์ เพื่อแก้ปัญหา ชั่วโมงการทำงานลากยาวนานเกินมาตรฐาน แต่มีประเด็นต้องพิจารณาหลายด้าน เช่น การรักษาฐานหรือระดับค่าจ้าง ไม่ให้มีการถูกลดเงินเดือนและค่าจ้างและการกระจายปริมาณงานให้ทันกับเวลาที่ลดลง
นโยบายดังกล่าว เริ่มมีการนำร่องบางพื้นที่ก่อน จังหวัดแรกที่เริ่มตั้งแต่เดือนมิ.ย. 68 ที่ผ่านมา นั่นคือจังหวัด “คยอง กี” (Gyeonggi) อยู่ใกล้กับกรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ เริ่มโครงการนำร่องระบบทำงาน 4 วันครึ่งต่อสัปดาห์ในภาคเอกชน โดยใช้วิธีการหั่นชั่วโมงการทำงานที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตามมาตรฐานกฎหมายเกาหลีในปัจจุบันและให้พนักงานหรือลูกจ้างสามารถเลือกได้ว่าจะขอทำงาน 35 ชั่วโมงต่อหนึ่งสัปดาห์หรือทำงาน 4 วันเต็มแบบสัปดาห์เว้นสัปดาห์ หรือทำงาน 4 วันครึ่งต่อหนึ่งสัปดาห์
โครงการนำร่องนี้ครอบคลุม 67 บริษัทขนาดเล็กและกลางและสถาบันสาธารณะ 1 แห่งและมีแผนวิเคราะห์ผลการเปลี่ยนแปลงด้านประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของพนักงานต่อเนื่องยาวถึงปี 2570
สำหรับบริษัทที่อยู่ภายใต้โครงการทดลองนี้ รัฐบาลจะช่วยเหลือด้วยการจ่ายชดเชยเงินให้นายจ้างเดือนละ 260,000 วอนหรือประมาณ 187 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัวต่อเดือน ถ้าหากสามารถลดเวลาทำงานได้ 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยตั้งงบประมาณสำหรับโครงการนี้ไว้ที่ 8,000 ล้านวอน
ทว่าประเด็นการจ่ายเงินชดเชย ถือเป็นเรื่องที่เปราะบาง นักวิจารณ์บางส่วนประเมินว่า หากระบบนี้ถูกนำมาใช้ทั่วประเทศจริง แล้วต้องทุ่มงบมหาศาลลงไป อาจกลายเป็นการสร้างภาระหนักต่อรัฐบาลท้องถิ่นได้
มีรายงานว่าบริษัทขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้บางแห่งเริ่มทดลองระบบยืดหยุ่นแล้วเช่นกัน เช่น Samsung Electronics อนุญาตให้พนักงานหยุดทุกวันศุกร์ในสัปดาห์ที่รับเงินเดือน หากทำงานครบตามชั่วโมงที่กำหนดไปแล้วช่วงเดือนนั้นและมี SK Telecom ที่ประกาศให้สัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือนเป็น Happy Fridays อนุญาตให้พนักงานสามารถหยุดงานได้ไม่นับ เป็นวันลา..!!
จากข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) พบว่า ชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อแรงงานเกาหลีใต้ปี 2567 อยู่ที่ 1,865 ชั่วโมงมากเป็นเป็นอันดับ 6 จาก 36 ประเทศสมาชิก และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม OECD ซึ่งอยู่ที่ 1,736 ชั่วโมง และสูงกว่าของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชั่วโมงทำงานเฉลี่ยอยู่ที่ 1,617 ชั่วโมง
ค่านิยมว่าด้วยเรื่องการทำงานหนักของคนเกาหลีใต้ คล้ายคลึงคนญี่ปุ่น จนถึงการบัญญัติมีศัพท์เฉพาะขึ้นมา นิยาม สำหรับคนที่ทำงานหนักจนตัวตาย (Death by Overwork) ถูกเรียกว่ากวาโรซา เป็นคำในภาษาเกาหลีมีความหมายใช้เรียกกรณีพนักงานเสียชีวิต จากโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน, หลอดเลือดสมองแตก, หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับการทำงานต่อเนื่องยาวนาน ความเครียดสูง และพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากนี้ “กวาโรซา” ถูกพูดถึงในบริบทอัตราการเกิดต่ำ, สุขภาพ จิต, และความสมดุลระหว่างชีวิตกับงาน (Work-Life Balance)
ผลสำรวจความคิดเห็นจากสหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลี (FKI) ปี 2566 พบว่า คนรุ่นใหม่ (Millennials-Generation Z) เลือกบริษัทที่เข้าไปทำงานด้วย จากการประกันด้าน Work Life Balance เป็นหลักคือการได้รับประกันว่าชีวิตการทำงานของพวกเค้าจะมีความสมดุลไม่หนักจนเกินไป นอกเหนือจากรายได้ที่เหมาะสม