NER ออเดอร์ล้น กำไรทะลัก!

NER ปรับเป้าปริมาณขายในปีนี้ลงจากเดิม 500,000 ตัน เหลือ 470,000 ตัน และปรับเป้ายอดขายจาก 34,000 ล้านบาท เหลือ 32,500 ล้านบาท โดยเป็นผลกระทบมาจากการที่ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ


คุณค่าบริษัท

การที่บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ปรับเป้าปริมาณขายในปีนี้ลงจากเดิม 500,000 ตัน เหลือ 470,000 ตัน และปรับเป้ายอดขายจาก 34,000 ล้านบาท เหลือ 32,500 ล้านบาท โดยเป็นผลกระทบมาจากการที่ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์มาตรการภาษีของสหรัฐฯ นั้น อาจทำให้นักลงทุนรู้สึกกังวลกับผลประกอบการในปีนี้จะออกมาไม่ดี

แต่ถ้าไปดูปัจจัยพื้นฐานของ NER ถือว่ายังแข็งแกร่ง สะท้อนได้จากงบในไตรมาส 2/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 478.00 ล้านบาท โดยมีปริมาณขาย 111,883 ตัน เพิ่มขึ้น 21,432 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 23.69%  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 7,584.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,775.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.56% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 6,087.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 80.27% ของยอดขายรวม หรือเพิ่มขึ้น 29.13% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,496.76 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19.73% ของยอดขายรวม หรือเพิ่มขึ้น 36.74%

หนุนให้งวด 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,162.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.72% ที่มีกำไรสุทธิ 932.36 ล้านบาท โดยมีปริมาณขาย 238,973 ตัน เพิ่มขึ้น 33,903 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 16.53%  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 16,282.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,931.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.83%

ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 3/2568 ถูกมองจะเติบโตได้ต่อ หลังจากปริมาณขายยังเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีออเดอร์ยางพาราล่วงหน้ายาวถึงเดือน พ.ย. 2568 แล้ว

ล่าสุดมีเซนติเมนต์เชิงบวกจากการที่รัฐบาลจีนยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราธรรมชาติจากไทย (ครอบคลุมพิกัดศุลกากร HS Code 4001, 4002 ) ที่ขนส่งผ่านช่องทางแม่น้ำโขง เป็น 0% จากเดิมต้องเสียภาษีนำเข้าที่ 20% ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้ไทยสามารถขยายตลาดยางในจีนได้เพิ่มขึ้น และมีศักยภาพในการแข่งขันเท่าเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง

ด้านบล.เอเอสแอล ระบุว่า ยังมองในส่วนของราคาขายเฉลี่ยอาจทรงตัว-อ่อนตัวจากปีก่อน แต่คาดว่าระดับของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะดีขึ้น (ในไตรมาส 3/2567 GPM อยู่ที่ 8.28% และไตรมาส 4/2567 GPM อยู่ที่ 8.46%) ส่งผลให้ยังคงประมาณการทั้งปีที่รายได้ 3.17 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.92 พันล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกรายได้คิดเป็น 51.3% และกำไรคิดเป็น 60.4%ของประมาณการทั้งปี

ส่วนประเด็นไฟไหม้ เป็นส่วนของโกดังที่เก็บสินค้าสำเร็จรูป โดยปริมาณผลผลิตที่เสียหาย 2 พันกว่าตัน ซึ่งไม่กระทบการขายและส่งมอบ มูลค่าความเสียหายอยู่ในช่วง 200-400 ล้านบาท (รอการประเมิน) ทั้งนี้บริษัทมีประกันทั้งในส่วนของโครงสร้าง และสินค้าเต็มจำนวน คาดรายได้ประกันจะบันทึกได้ในช่วงไตรมาส 4/2568

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น NER ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 4.16 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 16.86 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 0.86 เท่า ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.22 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 5.66 บาท จากราคาต่ำสุด 4.50 บาท และราคาสูงสุด 6.40 บาท

Back to top button