
CPF อัพแวลูหมูญี่ปุ่น
แค่เอ่ยชื่อบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ทุกคนรู้ดีว่าเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจหมู ไก่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากหมูและไก่หลากหลายรูปแบบ
แค่เอ่ยชื่อบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ทุกคนรู้ดีว่าเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจหมู ไก่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากหมูและไก่หลากหลายรูปแบบ เอาเป็นว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตเกือบทุกแห่งในประเทศไทยต้องมีผลิตภัณฑ์ของ CPF วางขายแน่ ๆ หรือไม่เช้านี้หลาย ๆ คนอาจทานมื้อเช้าที่ทำจากผลิตภัณฑ์ CPF ก็ได้นะ…
ส่วนตลาดต่างประเทศมีการส่งออกสินค้าไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุม 5 ทวีป หนึ่งในนั้น คือ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการส่งออกทั้งไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูปไปญี่ปุ่น แต่ที่ยังไม่มีคงเป็นผลิตภัณฑ์จากหมูหรือเนื้อสุกรล่ะมั้ง..??
จะว่าไปการตีตลาดญี่ปุ่นคงไม่เกินความสามารถของ CPF หรอก…แต่เดาใจว่า CPF คงอยากได้พันธมิตรมาร่วมหัวจมท้ายด้วยมากกว่าการฉายเดี่ยว เข้าทำนองสองหัวดีกว่าหัวเดียวนั่นแหละ…
ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นมี NH Foods Ltd. เป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์รายใหญ่ โดยมีสถานประกอบการใน 16 ประเทศทั่วโลก มีสำนักงานขายจำนวน 202 แห่ง และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว
เลยเป็นที่มาของการโคจรมาพบกันระหว่างสองยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหารของไทยและญี่ปุ่น ผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท ซีพีเอฟ เอ็นเอช ฟู้ดส์ จํากัด (CPFNH) เพื่อร่วมพัฒนาและผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร สําหรับจัดจําหน่ายในประเทศไทยและจัดจําหน่ายในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง
เริ่มแรก CPFNH จะมีเงินขวัญถุง อุ๊ย…ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แต่เป้าหมายทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท ขณะที่โครงสร้างการถือหุ้นแบ่งเป็น CPF ถือหุ้นผ่านบริษัทลูกบริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จํากัด (CPFFB) ในสัดส่วน 51% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 918 ล้านบาท ฟาก NH Foods Ltd. จะถือหุ้น 49% คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 882 ล้านบาท โดยบริษัทร่วมทุนใหม่จะจัดตั้งแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2568 นี้
ดูแล้วดีลนี้น่าจะลงตัวสุด ๆ…เนื่องจากอันดับแรก จะช่วยสร้างแวลูให้กับฟาร์มเลี้ยงหมูของ CPF จากเดิมที่เน้นขายเนื้อสุกรสด ก็หันมาแปรรูปมากขึ้น ซึ่งมีมาร์จิ้นที่สูงกว่า โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมาตรฐานของ NH Foods Ltd. ผนวกกับการที่ NH Foods Ltd. เป็นเจ้าใหญ่ในญี่ปุ่น ก็น่าจะช่วยสร้างตลาดและการรับรู้ได้ไม่ยาก
เบื้องต้นได้ข่าวว่า ผู้บริหารวาดฝันภายใน 5 ปี จะมีรายได้แตะ 3,000 ล้านบาทเลยนะ…ก็เอาใจช่วยละกัน
แต่มีช็อตที่น่าสนใจตรงที่มีเงื่อนไขการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน สิ่งแรกที่จะทำ CPFNH จะซื้อโรงงานอาหารสำเร็จรูปของ CPFFB ที่จังหวัดฉะเชิงเทราก่อนเลย ภายในไตรมาส 1 ปี 2569 เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท
เรียกว่าจัดตั้งบริษัทใหม่ปุ๊บ…ซื้อสินทรัพย์ปั๊บเลยนะเนี่ย..??
ก็เป็นท่าไม้ตายของกลุ่ม CPF เค้าแหละ…หรือใครจะเถียง
ส่วนเมื่อซื้อโรงงานที่ จ.ฉะเชิงเทราแล้ว จะซื้อโรงงานที่เหลือของ CPFFB ซึ่งแว่ว ๆ มาว่ามีอีก 5 แห่งอ๊ะป่าว..?? เป็นช็อตที่ต้องจับตากันต่อไป
เบื้องต้นอนาคตของบริษัทใหม่ CPFNH จะเป็นยังไง..?? จะ “ปัง” หรือ “พัง” ยังไม่มีใครตอบได้…
แต่ที่ตอบได้ CPF จะได้เงินเข้ากระเป๋าก่อนเลย 1,800 ล้านบาท ส่วนจะบันทึกเป็นกำไรมูลค่าเท่าไหร่..?? ไม่รู้ ๆๆ
สิ่งที่ตามมาจะทำให้งบในไตรมาส 1/2569 โป่งพองเป็นพิเศษ เชื่อหัวไอ้เรืองสิ…
อ้อ…ที่เห็นหุ้น CPF ไม่ตอบสนองต่อดีลนี้เอาซะเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นสตอรี่เชิงบวกที่จะหนุนการเติบโตในอนาคต…ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า CPF เป็นหุ้นที่ตายด้านไปแล้ว แต่นั่นเป็นเพราะนักลงทุนกังวลเรื่องงบไตรมาส 3/2568 ที่จะเห็นกำไรหดตัวทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน ซึ่งถูกกดดันจากราคาสุกรที่อ่อนตัว ต่างหากล่ะ
เรียกว่าสั้นร้าย…แต่ระยะกลางและยาวดีว่างั้น..!?
ส่วนใครใคร่จะซื้อก็ซื้อ…ใครใคร่จะขายก็ขาย
เลือกที่สบายใจล่ะกัน…
…อิ อิ อิ…
