กองทุน/ฝรั่ง โรเตชั่นหุ้น

คอลัมน์วันก่อนเขียนเกี่ยวกับให้ระวังนักลงทุนสถาบันหรือ “กองทุน” อาจจะ “โรเตชั่น” (Stock Rotation) หุ้น AOT หลังวิ่งขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรง


คอลัมน์วันก่อนเขียนเกี่ยวกับให้ระวังนักลงทุนสถาบันหรือ “กองทุน” อาจจะ “โรเตชั่น” (Stock Rotation) หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT หลังวิ่งขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรง ทำให้มูลค่าปัจจุบันเทียบเท่ากับราคาเป้าหมาย จนอาจจะเกิดปรากฏการณ์ซ้ำรอยกับหุ้น “การบินไทย” หรือ THAI

หุ้นการบินไทย หลังจากกลับเข้ามาเทรด

ราคาหุ้นถูกกลุ่มนักลงทุนสถาบันจากหลายหลายกองทุน ค่อย ๆ ทำราคา หรือไล่ราคาขึ้นมา

กระทั่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่ 19.40 บาทในช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาพื้นฐานอย่างมาก

หลังจากนั้น ราคาหุ้นค่อย ๆ ถูกขายทำกำไร ร่วงลงต่อเนื่อง

ล่าสุดมาเคลื่อนไหวในระดับ 8.30–9.70 บาท ต่อหุ้น

หากจะถามว่า หุ้นการบินไทยจะวิ่งกลับขึ้นมาได้ไหม เพราะเข้าใจว่าน่าจะมีนักลงทุนรายย่อยติดอยู่ด้านบนกันมากพอควร

ขอตอบคือ ต้องมาดูว่า กองทุนต่าง ๆ จะวกกลับเข้ามาเล่นต่อหรือเปล่า

นั่นเพราะหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคประดับหลักแสนล้านบาท หากจะถูกดันให้วิ่งขึ้นมาอีก ต้องเป็นกลุ่มสถาบันหรือต่างชาติเท่านั้นที่จะเข้ามาไล่เก็บ

ซึ่งตอนนี้บรรดากองทุนต่างเข้าไปเล่น AOT กันสนุกสนานอยู่ และอาจจะรวมถึงต่างชาติด้วย

สำหรับ Stock Rotation คือ กลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ เขาจะ “สลับ” การลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมหนึ่งไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง (หรือจากหุ้นหนึ่งไปยังอีกหุ้น) เพื่อทำกำไรตามวัฏจักรเศรษฐกิจหรือข่าวสาร

จากนั้น พวกเขามักจะขายหุ้นที่ขึ้นมาเยอะแล้ว เพื่อไปซื้อหุ้นอื่นที่คาดว่าจะเติบโตในระยะถัดไป

ยกตัวอย่างการสลับหุ้น หรือสลับกลุ่ม

  • สลับกลุ่ม (หุ้น): นักลงทุนจะโยกเงินจากกลุ่มหรือหุ้นที่กำไรมาแล้ว (Profit Taking) ไปยังกลุ่มที่กำลังจะมาแรง หรือมีปัจจัยบวก
  • ตามวัฏจักร: สอดคล้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น ช่วงเศรษฐกิจดีอาจเน้นหุ้นกลุ่มวัฏจักร (Cyclical Stocks) แต่ถ้าเศรษฐกิจชะลอ อาจหันไปหาหุ้นที่มั่นคง (Defensive Stocks).
  • พฤติกรรมนักลงทุน: มักเกิดจากแรงซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ หรือกองทุน ที่เข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ผลประกอบการดี เมื่อมีข่าวชัดเจน หรือราคาสูง ก็จะขายทำกำไร (ตีหัวเข้าบ้าน)

ตัวอย่างการโรเตชั่น

  • ข่าว: นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่องเมื่อผลประกอบการดี (เช่น ไตรมาส 3/68) เมื่อกำไรดีแล้ว ก็อาจจะเริ่มขายทำกำไร และมองหาหุ้นกลุ่มอื่นแทน
  • กลุ่มที่ถูกพักฐาน: หุ้นที่เคยเป็นที่นิยม อาจถูกพักฐาน เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่ ๆ

ทำไมต้องโรเตชั่น?

  • ทำกำไร: จับจังหวะการเคลื่อนไหวของตลาด เพื่อทำกำไรจากหุ้นแต่ละกลุ่มตามรอบ
  • จัดการความเสี่ยง: ลดความเสี่ยงจากการถือหุ้นกลุ่มเดียวที่ราคาสูงเกินไป

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาทั้งกองทุน และต่างชาติจะโรเตชั่นหุ้นกันเร็วมาก ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่จะถูกดึงมาเป็นเหยื่อนั่นก็คือ “รายย่อย“

จึงมักจะมีคำเตือนว่า หากจะเล่นหุ้นบิ๊กแคปที่วิ่งขึ้นมารวดเร็ว ก็ต้องเล่นแบบกองโจร เข้าเร็วออกเร็ว

หรือหากรู้ตัวว่าเข้าพลาด ต้องรีบขายตัดขาดทุนทันที

อย่าถือแช่

Back to top button