โอบามาเมินศูนย์กลาง?ทายท้าวิชามาร

ในขณะที่กองทัพไทยซื้อรถถังจีน สนใจอาวุธรัสเซีย กลุ่มสตรีศรีสยามไปชูป้ายไล่ทูตกลิน เดวีส์ ประธานาธิบดีโอบามาก็ไปเยือนเวียดนามครั้งประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯไปเยือนเวียดนาม หลังสิ้นสุดสงครามเมื่อปี 2518


ใบตองแห้ง

 

ในขณะที่กองทัพไทยซื้อรถถังจีน สนใจอาวุธรัสเซีย กลุ่มสตรีศรีสยามไปชูป้ายไล่ทูตกลิน เดวีส์ ประธานาธิบดีโอบามาก็ไปเยือนเวียดนามครั้งประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯไปเยือนเวียดนาม หลังสิ้นสุดสงครามเมื่อปี 2518

41 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังสงครามที่คนเวียดนามเหนือ-ใต้ รวมไปถึงลาว กัมพูชา ตายเป็นล้าน ทหารอเมริกันเอาชีวิตไปทิ้งเกือบ 6 หมื่นนาย วันนี้โอบามากลับยกเลิกข้อห้ามเวียดนามซื้ออาวุธสงคราม ทำความตกลง TPP และให้ความช่วยเหลือหลายด้าน เช่นจะตั้งมหาวิทยาลัยฟุลไบรท์ ฝ่ายเวียดนามก็ซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 100 ลำ

พวกเกลียดจักรพรรดินิยมอเมริกาคงโวยว่า 2 มาตรฐานนี่หว่า อ้างว่าไทยมีรัฐประหารบินข้ามหัวไม่มาเยี่ยม ทั้งที่เคยใช้ไทยเป็นฐานทัพ วันนี้กลับจูบปากเวียดนามที่เคยฆ่ากันเป็นเบือ ทั้งที่เป็นเผด็จการพรรคเดียว ไม่ใช่ประชาธิปไตยซักหน่อย แต่พอไม่ไว้ใจจีน กลับมาอี๋อ๋อกันได้

อ้าว ไม่รู้จักการเมืองระหว่างประเทศหรือครับ การเมืองระหว่างประเทศผลประโยชน์ต้องมาก่อน เพียงแต่กติกาประชาคมโลกก็ต้องยอมรับร่วมกัน แม้เต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง  เช่นครั้งนี้ เวียดนามก็ต้องทำความตกลงเรื่องสิทธิมนุษยชนและปฏิรูปกฎหมาย

สิทธิมนุษยชนคืออะไร ไม่ต้องเถียงให้มากความ เอาง่ายๆ มันคือกระแสโลก กระแสสื่อ กระแสสังคมตะวันตก ประเทศไหนเป็นเผด็จการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐประหารถอยหลังเข้าคลอง ถ้ารัฐบาลตะวันตกยังหนุนหลัง ก็ย่อมถูกชาวโลกวิจารณ์ คนในประเทศตัวเองคัดค้าน

ขณะเดียวกัน เมื่อจะมาทำการค้าการลงทุน ฝรั่งก็ต้องการหลักประกัน ว่าจะมีระบบกฎหมายชัดเจนแน่นอน ไม่ใช่ใครออกคำสั่งจับกุมได้โดยไม่ต้องใช้หมายศาล ต้องมีหลักประกันเสรีภาพ ทั้งเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรม การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การแสดงความคิด ยกตัวอย่างเวียดนาม ถ้าอยากให้ฝรั่งมาลงทุนเยอะๆ อยากให้คนเวียดนามอพยพกลับบ้าน เขาก็เข้าใจดีว่าต้องยอมเป็น “ประเทศเสรี” มากกว่านี้

แบบเดียวกับทหารพม่าเข้าใจดีว่า ถ้าไม่อยากถูกจีนผูกขาดการค้า ก็ต้องเปิดประชาธิปไตย ซึ่งได้ผล จอห์น เคอร์รี รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯเพิ่งไปไหว้เจดีย์ชะเวดากอง พร้อมกับทยอยยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

ถามว่าสหรัฐฯอยากผลักไทยไปคบจีนรัสเซียหรือ สหรัฐฯคงไม่โง่ปานนั้น (คนไทยก็คงไม่โง่พอที่จะรู้ว่า ประโยชน์สูงสุดคืออยู่ตรงกลาง) เพียงแต่สหรัฐฯในฐานะเสาหลักกติกาโลก จะมายอมรับสนับสนุนรัฐประหารเหมือนอดีตไม่ได้ ทั้งอายโลกและถูกผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อว่า ในฐานะมิตรประเทศยาวนาน สหรัฐฯก็เตือนว่าไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่สนใจก็แล้วไป เขาคงไม่แทรกแซงอะไร

เพราะถามกลับกัน สหรัฐฯและโลกตะวันตกแคร์ไทยมากนักหรือ ขาดไทยไม่ได้ “ศูนย์กลางอาเซียน” เราสำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า ถ้าโลกตะวันตกมีความสัมพันธ์อันดี กับเวียดนาม ลาว  กัมพูชา พม่า แห่ย้ายฐานไปทำการค้าการลงทุน ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพึ่ง “ศูนย์กลาง” นอกจากใช้เป็นทางผ่านบางครั้ง

ไทยจะเป็นศูนย์กลางอาเซียนได้ ไม่เพียงเพราะตัวเราเอง แต่ต้องดึงดูดต่างชาติมาตั้งฐาน ที่ผ่านมาเราโดดเด่นที่สุดในภูมิภาคนี้ ทั้งสาธารณูปโภค เทคโนโลยี น้ำใจไมตรี “สยามเมืองยิ้ม” และความเป็น “ประเทศเสรี”

แต่ทุกวันนี้ความเป็น “ประเทศเสรี” มีแต่ถอยลงๆ “สยามเมืองยิ้ม” กลายเป็นยิ้มแสยะชาตินิยมสุดโต่ง “เมืองไทยเมืองพุทธ” ยุ่งที่สุดคือเรื่องพระ “ไทยนี้รักสงบ” แต่สงบได้เพราะ ม.44 ไม่รู้วันไหนจะปะทุขึ้นอีกที                                                                                                                     

Back to top button