เริ่มคิดหนัก!โมนิก้าและทีมงาน

*ข่าวใหญ่ที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์มากสุดในเที่ยวนี้กลายเป็นเรื่อง LINE ขาย IPO มูลค่า 2 แสนล้านบาท (6 แสนล้านเยน) แถมเป็นข่าวที่นักลงทุนร้อยท่อต่อสายตรงเข้ามาพูดคุยเยอะมาก เดี๊ยนเลยขอเผือกเรื่องดังกล่าวก่อนจะเม้าท์ถึงตลาดหุ้นไทย เพราะยุคนี้ สมัยนี้ มีแต่คนใช้ไลน์ทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกคนเลยมองว่า นี่คือหุ้นห่านทองคำที่ควรจะได้เป็นเจ้าของไงล่ะค่ะ


*ข่าวใหญ่ที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์มากสุดในเที่ยวนี้กลายเป็นเรื่อง LINE ขาย IPO มูลค่า 2 แสนล้านบาท (6 แสนล้านเยน) แถมเป็นข่าวที่นักลงทุนร้อยท่อต่อสายตรงเข้ามาพูดคุยเยอะมาก เดี๊ยนเลยขอเผือกเรื่องดังกล่าวก่อนจะเม้าท์ถึงตลาดหุ้นไทย เพราะยุคนี้ สมัยนี้ มีแต่คนใช้ไลน์ทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกคนเลยมองว่า นี่คือหุ้นห่านทองคำที่ควรจะได้เป็นเจ้าของไงล่ะค่ะ

*น่าเสียดายที่หุ้นตัวนี้ขายที่ตลาดหุ้นโตเกียว (Tokyo Stock Exchange) และตลาดหุ้นนิวยอร์ก (New York Stock Exchange) คนไทยหมดสิทธิ์จองอย่างแน่นอน ถึงกระนั้นเดี๊ยนก็มองเรื่องนี้ว่า นี่จะเป็นตัวจุดกระแสหุ้นไอพีโอรอบใหม่ และนับจากนี้จะเห็นหุ้นน้องใหม่เดินหน้าเข้าตลาดหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองสำรวจด้วยตนเองว่า มีหุ้นตัวไหนโรดโชว์หนักๆ บ้างแล้วเจ้าค่ะ

*หากคิดไม่ออก “โมนิก้า” ขอเฉลยให้เลยว่า บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ซึ่งได้มือดีทางการเงินอย่าง “น้องหนึ่ง” แห่งค่าย ฟินเน็กซ์ฯ เป็นคนดูแลเรื่องเอกสารต่างๆ พร้อมกันนี้ยังได้ “น้องแกะ” จากค่าย บล.ฟินันเซียฯ เป็นคนจัดจำหน่ายให้แบบนี้ เดี๊ยนขอให้แฟนคลับนั่งนับวันที่หุ้นจะเข้าตลาดหุ้นได้เลย และที่น่าสนใจคือ ยังมีอีกหลายค่ายกำลังยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหุ้นอีกด้วยนะจ๊ะ

*ย้อนกลับมาดูเรื่องตลาดหุ้นกันบ้างดีกว่า เพราะยอดซื้อสุทธิล่าสุดยังเป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวที่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตไปอีก 760 ล้านบาท ส่วนกองทุนตัวแสบก็ซื้อตามไปอีก 380 ล้านบาท ขณะที่ปอบผีฟ้าก็ซื้ออัดเข้าไปมากถึง 920 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะยังไม่มีใครปรับเป้าดัชนีเพิ่มขึ้นอย่างจะแจ้ง ส่งผลให้เกมนี้เป็นเพียงการลากไปออกของราคาสูงกระมั้ง?

*งานนี้ไม่ต้องการให้ทุกคนเชื่อตามคำแนะนำ แต่อยากให้ลองคิดสักนิดว่า P/E ตลาด 21 เท่า มันสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป? เมื่อนำมาเทียบกับความสามารถในการทำกำไรที่ถดถอย “โมนิก้า” ถึงยืนยันการเข้าเล่นเป็นแบบสั้นๆ เพื่อให้นักเล่นไม่ติดกับดักทางความคิด เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้เป็นเพียงการโยกย้ายเงินทุนธรรมดาๆ เมื่อเงินทุนจากทั่วสารทิศ “เข้ามาได้ ก็ออกได้” นะจะบอกให้

*โดยเฉพาะในรายของ BWG กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.96 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 555 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเรื่องนี้เป็นเกมหุ้นที่เห็นกันมาแล้วหลายรอบ และมุกที่นำมาขายในเที่ยวนี้ก็เป็นเรื่องกำไรโตอีกแล้ว! วันนี้ถึงต้องมองราคาหุ้นที่บริเวณ 2 บาทแพงไปไหม? หรือคิดง่ายๆ คือ ปีนี้ต้องทำกำไรต่อหุ้นให้มากกว่า 0.10 บาท ราคาดังกล่าวถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ขณะที่ไตรมาส 1 ทำกำไรต่อหุ้นได้ 0.02 บาท มันคุ้มที่จะเสี่ยงไหมตัวเอง!

*เช่นเดียวกับในรายของ NOK  หากมองการขยับขึ้นมาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 1.15 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่า 380 ล้านบาท พร้อมกับโดนขึ้นเครื่องหมาย Trading Alert จนนำไปสู่การบังคับให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่นักเล่นรู้อยู่แก่ใจว่า ต้องโดนล่อเป้าแน่ๆ สุดท้ายก็ยังเข้ามาเล่นกันอย่างสนุกสนาน มันเป็นเรื่องของกระแสความเชื่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยวิ่งระเบิดระเบ้อ พอถัดมาอีกวันก็รูดมหาราช..ยังจำกันได้ไหม?

*คล้ายคลึงกับเคสของ ANAN หากดูผ่านๆ ถือเป็นจังหวะที่ต้องตามน้ำ เพราะวอลุ่มมา กระแสมา แต่ทันทีที่หันไปดูสัญญาณเทคนิค “โมนิก้า” ถึงกับผงะในทันที เพราะหุ้นกำลังจะขึ้นมาถึงยอดเดิม 4.20 บาทเป็นครั้งที่ 3 โดยที่ 2 ครั้งแรกที่มาถึงระดับดังกล่าว หุ้นก็รูดลงไม่เป็นท่าเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงต้องถามเหล่านักเล่นกันอีกรอบว่า หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.06 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 290 ล้านบาท ยังน่าเล่นอยู่ไหม?

*ขนาดหุ้นที่มาด้วยพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะอย่าง BEM พอกระชากขึ้นมาถึงแนวต้าน 6.50 บาทอย่างร้อนแรง แต่พอรู้ตัวว่า ไปต่อไม่ไหว? ก็รูดลงมาปักหลักสร้างฐานแถว 6.30-6.10 บาทอยู่บ่อยครั้ง  ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.40%  “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งฉากที่นักเล่นต้องใช้กระบวนการทางความคิดค่อนข้างเยอะว่า เอาไงดี!..อิอิอิ

*ประเด็นข้างต้นเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ BIG หลังหุ้นทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 3.94 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 380 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า หุ้นตัวนี้มีแพทเทิร์นเหมือนกับรายข้างต้นทุกอย่าง โดยองค์ประกอบหลักที่ทำให้หุ้นตัวนี้ฝ่าทุกอุปสรรคขึ้นไปได้ มันมาจากเรื่องผลประกอบการหนุนล้วนๆ นะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้นขวัญใจกองทุนอย่าง CBG กันสักหน่อยดีกว่า เพราะทุกครั้งที่หุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง วันนั้นมักเห็นนักลงทุนสถาบันมียอดซื้อโผล่ขึ้นมาเยอะเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณากันเอาเองว่า หุ้นวิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 47 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.44% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท พร้อมกับทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น ยังเป็นจุดที่น่าเล่นอยู่หรือเปล่า?

Back to top button