ACAP พี/อีที่ก้นเหว

ราคาหุ้นของบริษัทปล่อยสินเชื่อธุรกิจ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ที่ระดับ 14.50 บาท ไม่ถือว่าเป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปีนี้ แต่หากคิดเทียบนับแต่บริษัทฟื้นคืนกำไรมาได้ 3 ปีจนมีค่าพี/อีเทียบกับเขาอื่นตามมาตรฐาน ก็ถือว่าเป็นหุ้นราคาถูกที่สุดในรอบ 3 ปี


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

ราคาหุ้นของบริษัทปล่อยสินเชื่อธุรกิจ บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ที่ระดับ 14.50 บาท ไม่ถือว่าเป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายปีนี้ แต่หากคิดเทียบนับแต่บริษัทฟื้นคืนกำไรมาได้ 3 ปีจนมีค่าพี/อีเทียบกับเขาอื่นตามมาตรฐาน ก็ถือว่าเป็นหุ้นราคาถูกที่สุดในรอบ 3 ปี

ค่าพี/อี เมื่อเทียบกับงบสิ้นงวดไตรมาสสามปีนี้ ของ ACAP ที่ระดับ 14.81 เท่า จากราคาหุ้นล่าสุดเทียบกับสิ้นปี 2559 ที่ 61 เท่า จากราคาหุ้นเพียงแค่ 21 บาทเศษ บอกให้รู้ว่าควรซื้อมากกว่าควรขาย…ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน

เหตุผลเพราะผลประกอบการที่มีกำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นโดดเด่นอย่างมาก….เด่นจนต้องตะลึงตาค้าง แถมยังเป็นกำไรจากการดำเนินงานล้วนๆ ด้วยฝีมือของซีอีโอคนเก่งชนิด “รอบจัด” นางสาว สุกัญญา สุขเจริญไกรศรี หรือ หนูเค้ก ไม่ได้ฟลุกเพราะตัดขายทรัพย์สินเก่ากิน….แบบขายผ้าเอาหน้ารอด

ในไตรมาสสาม ACAP รายงานงบการเงินที่สวยหรูแม้จะมีรายได้รวมไม่มากเพียงแค่ 103.18 ล้านบาท แต่ EBITDA ที่เหลือเชื่อ 81.80 ล้านบาท และกำไรสุทธิมากผิดความคาดหมายถึง 59.13 ล้านบาท

กำไรที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามกับคำบอกใบ้ล่วงหน้าที่ผู้บริหารของ ACAP ส่งสัญญาณทางลบมาก่อนหน้างบออกว่า…ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทลูกหนี้บางบริษัทที่ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด บริษัทได้บังคับทรัพย์มาแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างบังคับอีกรอบหนึ่ง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ขายทอดตลาด เพราะต้องรอจังหวะเวลา….โอกาสที่กำไรลด อาจเป็นไปได้…ซึ่งไม่เกิดขึ้นจริง

ก็คุณน้องเล่นเอาทรัพย์ที่ยึดมาได้ ขายออกไป…กำไรที่โป่งพอง ก็เข้าใจได้ ว่า….สมเหตุสมผล

กำไรสุทธิไตรมาสสามทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือน อร่ามตาอย่างมากถึง 223.66 ล้านบาท มากกว่ากำไรสุทธิตลอดทั้งปีของปี 2559 แล้วหากคิดจากรายได้ 561.30 ล้านบาท ก็ยังเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับตลอดปี 2559 ที่มีรายได้รวมแค่ 421.15 ล้านบาท

ยิ่งกว่านั้น งบที่สุดสวยยังทำให้สัดส่วนทางการเงินอื่นของ ACAP เข้าข่าย “จิ๋วแต่แจ๋ว” ชนิดเถียงไม่ขึ้น นับแต่อัตรากำไรสุทธิที่ 39.85 % อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น 30.53% และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 11.32%….ส่งประกวดเวทีไหน ก็มีโอกาสเข้ารอบสุดท้ายเสมอ

ไม่เพียงเท่านั้น หากลงลึกในงบการเงินจะเห็นได้ชัดว่าฝีมือในการหารายได้ ก็ไม่ธรรมดา เพราะในไตรมาสสาม ACAP มีรายได้จากดอกเบี้ยรับกระโดดมากจากระยะเดียวกันปีก่อน 65.70 ล้านบาท เพิ่มเป็น 132.67ล้านบาท ซึ่งมากเพียงพอเมื่อหักกลบด้วยรายได้จากคอลเซ็นเตอร์ที่ลดลงจากปีก่อน 41.45 ล้านบาท และทำให้รายได้รวมไตรมาสามพุ่งขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบ 100%

การเติบโตเพิ่มของส่วนผู้ถือหุ้นที่ล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 1,198.73 ล้านบาท ทำให้การก่อหนี้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมา ACAP ถนัดกับการก่อหนี้ระยะยาว มาปล่อยกู้ให้ลูกค้าในระยะสั้นอยู่แล้ว มีความเสี่ยงต่ำ

การออกหุ้นกู้อายุ 2 ปีของ ACAP มูลค่า 500 ล้านบาทเมื่อเดือนตุลาคมที่มีอัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ จึงขายหมด เติมวงเงินเตรียมปล่อยเงินกู้เดิมที่มีอยู่เดิม 1.9 พันล้านบาท …น่าจะทำให้ปีหน้า สามารถติดปีกโบยบินได้อีกยาวไกล ไม่ต้องสะดุด

หากดูจากพื้นฐานทางการเงิน น่าจะทำให้สูตร Let Profit Run…กำไรดันราคา…. ทำงานได้ราบรื่น แต่ในกรณีของราคาหุ้น ACAP…กลับไม่เวิร์ก

การนำเสนอข่าวดีของ ACAP ในเรื่องการเติบโตของสินเชื่อ และการขายหุ้นกู้ใหม่ของปีนี้ เพื่อเพิ่มฐานเงินปล่อยสินเชื่อ จึงไม่ค่อยมีประโยชน์หรือช่วยราคาหุ้นมากมายอะไรนัก

ราคาหุ้น ACAP ที่ร่วงแบบซึมยาวไร้ก้นเหว….ช่วงเวลาเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา จึงสะท้อนความไร้เหตุผลของแมงเม่า…แต่ก็ทำให้หลายคนได้เลือกซื้อของถูก….สบายใจเฉิบ

ที่สำคัญราคา ACAP-W2 ที่นับแต่เข้ามาเทรดในตลาด และเคยแน่นิ่งแถว 13.00 บาท กลับทรุดลงมาอยู่ใต้ 8.80 บาทหน้าตาเฉย กลายเป็น อนุชาตบุตร ….ลูกถ่วงแม่….เพราะหากลบด้วย 6.00 บาท ที่เป็นค่าแปลงสิทธิแล้ว ราคาหุ้นแม่ ACAP แพงเกินเสมอ

เพียงแต่ในสัปดาห์นี้ แรงขายหุ้นแม่ที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ พลิกสถานการณ์ให้กลับตาลปัตร เพราะราคา ACAP แม่ต่ำกว่าลูกหน้าตาเฉย….

ไม่รู้ว่าใครที่…มีแต่ตา หาแววไม่เจอ….กันบ้าง ถึงได้ปล่อยให้ราคาหุ้นดีอยู่ที่ก้นเหวเหมือนของไร้ค่าแบกะดิน

อิ อิ อิ

Back to top button