TCJ มั่นใจปี 60 พลิกมีกำไร หลังธุรกิจนำเข้า-ส่งออกโตต่อเนื่อง

TCJ มั่นใจปี 60 พลิกมีกำไร หลังปีก่อนขาดทุน 2.20 ล้านบาท หลังธุรกิจนำเข้า-ส่งออกฉาวแววโตต่อเนื่อง พร้อมส่งซิกปี 61 โตไม่ต่ำกว่า 10% ตามภาพรวมตลาดอุตสาหกรรม


นายทรงวุฒิ ไกรภัสสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TCJ เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 60 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 ด้วยปัจจัยการดำเนินธุรกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง

โดยบริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตที่ 10% และจะพลิกกลับมามีกำไรจากปี 59 ที่มีผลขาดทุน 2.20 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจนำเข้า ส่งออก จำหน่าย เครื่องจักรกลที่ใช้ในงานก่อสร้าง และธุรกิจนำเข้า ส่งออก แปรรูป จำหน่ายและติดตั้ง สินค้าประเภทเหล็กกล้าไร้สนิม มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทรายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 มีกำไร 16.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/59 ที่มีกำไร 1.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นเติบโต 1,054.22% ส่งผลให้งวด 9 เดือนมีกำไร 41.81ล้านบาท จาก 9 เดือนปีก่อนมีกำไร 9.97 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 1,175.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 920.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.8% เนื่องจากบริษัทได้รับแรงหนุนจากรายได้จากกลุ่มโลหะและงานรับเหมาเพิ่มขึ้นทำให้กำไรเติบโตในทิศทางที่ดีสะท้อนถึงพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง

“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทโลหะสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ค้าส่งสินค้าเหล็กและกลุ่มผู้รับเหมาขึ้นรูปและโรงงาน ซึ่งเราพบว่าลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มยังมีการเติบโตที่ดี และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต จากโครงการลงทุนภาครัฐฯ” นายทรงวุฒิ กล่าว

ด้านนายทัสชน ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า TCJ ได้รับงานเครื่องจักรอุตสาหกรรมหนัก ประเภทรถขุด ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม, รถไฟฟ้าสายสีชมพู และมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช โดยงานดังกล่าวได้เริ่มเข้าหน้างานแล้วในปีนี้ และคาดจะเข้าหน้างานมากขึ้นในปีหน้า

โดยสอดคล้องกับงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐฯ เนื่องจากบริษัทรับงานต่อจากผู้รับเหมารายใหญ่ คือการเป็นผู้รับเหมาช่วง โดยมีงานเช่ารถ เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้า งานรถไฟทางคู่ และงานมอเตอร์เวย์ ในช่วงที่ผ่านมา และปัจจุบันมีงานตบแต่งสถานีสนามไชยที่จะทยอยส่งมอบไปถึงกลางปี 2561 ที่น่าจะสนับสนุนต่อการเติบโตในระยะยาว

อีกทั้ง บริษัทคาดปริมาณงานก่อสร้างกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามโปรเจ็กต์งานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐบาลและโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(Eastern Economic Corridor: EEC) ของภาครัฐ

“งานของบริษัทนอกจากงานโครงสร้างพื้นฐาน ยังมุ่งเน้นงานก่อสร้างเชิงราบ โดยสัดส่วนในปีนี้จะอยู่ที่งานโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 30% และงานอื่นๆ 70% โดยบริษัทยังรับงานจากโครงการที่อยู่อาศัย โครงการเชิงพาณิชย์อื่น ซึ่งจุดแข็งของบิ๊ก เครน ได้แก่ สินค้า เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งบุคลากรของบริษัทยังมีทักษะและความเป็นมืออาชีพ บวกกับระบบการจัดการที่ดี จึงทำให้บริษัทติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ที่ให้บริการในด้านนี้”นายทัสชน กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 2561 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%  โดยการเติบโตในช่วงปี 2560 ถือว่าเป็นไปตามคาด และหากพิจารณาการเติบโตรายได้ ณ ปัจจุบัน มีอัตราเติบโตกว่า 17% ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าบริษัทยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีตามภาพรวมตลาดอุตสาหกรรม

อนึ่ง TCJ มีธุรกิจอยู่ 4 ประเภท ประกอบด้วย

  1. ธุรกิจการจัดจำหน่าย เครื่องจักรกลก่อสร้าง เครื่องจักรกลอุตสาหกรรมหนัก
  2. ธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุที่ทำจากโลหะ เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ใช้ ผู้รับเหมา และผู้ค้าส่ง รวมถึงธุรกิจท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายท่อเหล็กกล้าไร้สนิม
  3. ธุรกิจรับเหมาติดตั้ง ประกอบ และตกแต่งงานวิศวกรรมด้านโลหะภัณฑ์
  4. ให้เช่าเครื่องจักรกลหนัก เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและขนส่ง

Back to top button