ASIAN โตตามแผน

สัญญาณราคาหุ้นของ บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เริ่มมีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้น ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาให้เห็นเป็นระยะๆ นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560 ทั้งที่ก่อนหน้าราคาหุ้นเคลื่อนไหวเพียงในกรอบแคบ และล่าสุดช่วง 2-3 วันมานี้ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกันกว่า 6% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุนรอบใหม่


คุณค่าบริษัท

สัญญาณราคาหุ้นของ บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เริ่มมีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้น ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาให้เห็นเป็นระยะๆ นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560 ทั้งที่ก่อนหน้าราคาหุ้นเคลื่อนไหวเพียงในกรอบแคบ และล่าสุดช่วง 2-3 วันมานี้ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกันกว่า 6% ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการลงทุนรอบใหม่

ตามแนวทางที่มีการปรับโครงสร้างของบริษัทที่ผ่านมามีกระจายรายได้มากขึ้น จากอดีตที่พึ่งพิงธุรกิจกุ้งเป็นธุรกิจหลัก เข้าสู่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรดีแทน จะช่วยหนุนทั้งเสถียรภาพของรายได้และอัตรากำไร

ส่วนตัวเร่งมาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำ ที่ทั้ง 2 ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรดีกว่าอัตรากำไรเฉลี่ยเดิมของบริษัทเกือบเท่าตัว

โดยในปี 2560 มีการคาดว่ารายได้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะเติบโต 73% ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์น้ำคาดว่าเติบโต 34% นอกจากนี้หากปริมาณผลผลิตกุ้งของไทยฟื้นตัวจะหนุนธุรกิจอาหารกุ้งอย่างมีนัยสำคัญ

ที่สำคัญนักวิเคราะห์ประเมินกำไรปี 2560 ที่ 422 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 172%  จากปี 2559 ที่ 155 ล้านบาท และคาดว่าปี 2561 กำไรจะเติบโตอีก 19%

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2,403.89 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 2,358.03 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 111.95 ล้านบาท หรือ 0.31 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 9.67 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างอย่างก้าวกระโดด

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,233.86 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,357.30 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 312.16 ล้านบาท หรือ 0.86 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 29.74 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น สะท้อนถึงการกลับมาเติบโตอย่างมั่งคั่งอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีเงินปันผลจูงใจ คาดว่าบริษัทจะมีการจ่ายเงินสดปันผลที่ระดับ 50% ไม่รวมหุ้นปันผล ทำให้ปันผลเงินสดต่อหุ้นทั้งในปี 2560 และปี 2561 ยังอยู่ระดับสูงที่ 0.40 บาทต่อหุ้น และ 0.46 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราเงินปันผล 3.53% และ 4% ตามลำดับ ส่วนครึ่งปีแรก 2560 จ่ายแล้ว 0.056 บาทต่อหุ้น

สิ่งสำคัญบริษัทยังเติบโตต่อในระยะยาว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ที่ 1.45 หมื่นล้านบาทจากปัจจุบันที่คาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่เพียง 1 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่ม 50% ใน 3 ปี คิดเป็นการเติบโต 13% ต่อปี

งานนี้คาดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ และตั้งเป้ากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 10-12% จากปี 2560 ที่คาดว่าจะอยู่ที่เพียง 10.50%

ทำให้นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล 181,856,314 หุ้น 50.26%
  2. นายสมชาย อมรรัตนชัยกุล 47,610,000 หุ้น 13.16%
  3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 24,739,024 หุ้น 6.84%
  4. น.ส.ศิริพัชร์ อมรรัตนชัยกุล 19,178,000 หุ้น 5.30%
  5. นางจิรัญญา อมรรัตนชัยกุล 13,009,500 หุ้น 3.60%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานกรรมการ
  2. นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร
  3. นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล กรรมการผู้จัดการ
  4. นายสมชาย อมรรัตนชัยกุล กรรมการ
  5. นายสมศักดิ์ สถิตธำมรงค์ กรรมการ

Back to top button