PTG แกร่ง!

ปัจจุบัน PTG เน้นธุรกิจรีเทล โดยหลักคือสถานีบริการน้ำมัน PT และขายส่งน้ำมันเตา ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมัน 1,718 แห่ง กระจายทั่วประเทศ และมีเป้าหมายขยายเป็น 4,000 แห่งในปี 2565


คุณค่าบริษัท

ปัจจุบัน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เน้นธุรกิจรีเทล โดยหลักคือสถานีบริการน้ำมัน PT และขายส่งน้ำมันเตา ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมัน 1,718 แห่ง กระจายทั่วประเทศ และมีเป้าหมายขยายเป็น 4,000 แห่งในปี 2565

สำหรับการขยายปั๊มน้ำมันจะเน้นการซื้อสถานีบริการเดิมมาปรับปรุง ซึ่งจะใช้เงินลงทุนแต่ละสถานีไม่มากเท่ากับสร้างใหม่ทั้งหมด

นอกจากนี้ บริษัทจะขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันมากขึ้น คือมีการขยายธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ และพลังงานสะอาด ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงประมาณ 25.26% เทียบกับธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่ 7% ผลดังกล่าวจะทำให้อัตรากำไรในระยะยาวของบริษัทเพิ่มขึ้นในระยะยาว และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าการตลาดในธุรกิจน้ำมันค้าปลีก

ส่วนธุรกิจพลังงานสะอาดด้วยปาล์มคอมเพล็กซ์ บริษัทลงทุน 40% ในปาล์มคอมเพล็กซ์ที่มีกำลังการผลิตไบโอดีเซล (B100) เท่ากับ 450 ตันต่อวัน และขายผ่านเครือข่ายสาขาของ PTG เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์กลางเดือนกรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะทำกำไรได้ 160-200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งธุรกิจนี้เป็นหนึ่งใน Key Growth ของกำไรบริษัทช่วงปี 2561-2562

ที่สำคัญ ก่อนหน้านี้บริษัทมีการลงนามสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อย ได้แก่บริษัท บีพีทีจี จำกัด สำหรับประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน บริเวณด้านหน้าคลังน้ำมันพิจิตร คลังน้ำมันนครลำปาง และสถานีสูบถ่ายน้ำมันกำแพงเพชรของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 100 ล้านบาท และ PTG เข้าถือหุ้น 60%

โดยคาดว่าสถานีบริการน้ำมันครบวงจรทั้ง 3 แห่งนี้ จะมีการให้บริการร้านกาแฟพันธุ์ไทย ร้านสะดวกซื้อ Max Mart และครัวจิตรมาส เป็นต้น โดยจะมีมูลค่าการลงทุนรวมของการเปิดสถานีบริการทั้ง 3 แห่ง อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท และเบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 8-9 ปี

การร่วมมือกับ BAFS ในครั้งนี้ ทำให้ PTG มีจุดบริการครบวงจรเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าบริเวณจุดจ่ายน้ำมันทางท่อ และเป็นการเพิ่มการใช้ระบบขนส่งทางท่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมความมั่นคงทางด้านพลังงาน โดยเราคาดว่าระบบขนส่งทางท่อ จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการระบบขนส่งน้ำมันให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับสถานีบริการ

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18 บาท/หุ้น

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด 419,504,000 หุ้น 25.12%
  2. นายศักดิ์อนันต์ วิจิตรธนารักษ์ 161,186,300 หุ้น 9.65%
  3. นายพงษ์ศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช 100,300,000 หุ้น 6.01%
  4. นางจรัสลักษณ์ นิธยานุรักษ์ 77,849,140 หุ้น 4.66%
  5. THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED 70,500,000 หุ้น 4.22%

รายชื่อกรรมการ

  1. พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ ประธานกรรมการบริษัท
  2. พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ กรรมการอิสระ
  3. นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
  4. นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการ
  5. นายพงษ์ศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร

Back to top button