HUMAN มั่นใจกำไรปี 61 โตเกิน 20% อัดงบลงทุนปีหน้า100ลบ.ลุยซื้อกิจการ-ร่วมทุนขยายธุรกิจ

HUMAN มั่นใจกำไรปี 61 โตเกิน 20% อัดงบลงทุนปีหน้า100ลบ.ลุยซื้อกิจการ-ร่วมทุนเต็มสูบ


นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการบริษัทในปี 61 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 95.08 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลเป็นหลัก และธุรกิจการให้บริการด้านการบริหารจัดการบัญชีและการเงินยังขยายตัวต่อนื่อง และยังได้รับผลดีจากการรับรู้รายได้จากบริษัท บริการบัญชีและภาษีซิกม่า จำกัด เข้ามาเพิ่มเติม หลังรับโอนกิจการทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าปี 62 จะมีกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 61 และมีอัตราการเติบโตของรายได้จะมากกว่าปีนี้ โดยเป็นไปตามการขยายตัวของธุรกิจบริษัท รวมถึงมองหาโอกาสขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และรับรู้รายได้จากบริษัท บริการบัญชีและภาษีซิกม่า จำกัด แบบเต็มปี พร้อมกำหนดงบลงทุนรวมที่ราว 100 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อกิจและร่วมลงทุน

โดย บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 3 รายเพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและธุรกิจใหม่ โดยธุรกิจเดิมทางบริษัทจะถือหุ้น 100%  ส่วนธุรกิจใหม่บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นเป็นส่วนน้อย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนทั้งหมดภายในสิ้นปี 61

ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจากับสถาบันการเงินในประเทศจำนวน 3 ราย และสตาร์ทอัพ 1 ราย เพื่อขยายการลงทุนไปยังธุรกิจสินเชื่อ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะร่วมลงทุนกับรายใด คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ธ.ค. 61 และคาดว่าจะเห็นโปรดักส์ภายในไตรมาส 1/62 เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับธุรกิจสตาร์ทอัพในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบริษัท โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจน 2-3 รายตั้งแต่ช่วงปลายปี 61 ถึงงช่วงต้นปี 62 เพื่อเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนเบื้องต้นประมาณ 20% โดยหวังว่าจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

ส่วนกรณีช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวห้างเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท ปรับลดจำนวนพนักงานลง แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเทสโก้ โลตัส มีจำนวนพนักงานกว่า 70,000 คน

โดย กองทุนต่างประเทศที่เคยเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 40 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 11.20 บาท ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ Decker & Co. ขณะนี้ยังติดต่อเข้ามาซื้อเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นแนวโน้มการเติบโตของบริษัท แต่บริษัทยังไม่ตัดสินใจขาย สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ Decker & Co. ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดชั้นนำครอบคลุมทั้งหมดของเอเชีย

Back to top button