BM ลั่นรายได้ปี 61 โตตามเป้า 20% หลังตุนแบ็กล็อกแน่น-คว้างานใหม่ต่อเนื่อง

BM ลั่นรายได้ปี 61 โตตามเป้า 20% หลังตุนแบ็กล็อกแน่น-คว้างานใหม่ต่อเนื่อง


นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2561 จะเติบโต 10-20% จากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 846 ล้านบาท เนื่องจากมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 500 ล้านบาท โดยคาดจะรับรู้รายได้ปีนี้บางส่วน และในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก หลังจากได้รับออเดอร์งานในส่วนของเสาสื่อสารโทรคมนาคม รวมทั้งได้รับออเดอร์งานในธุรกิจอื่น ๆ ที่มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทยังเตรียมรับงานซับคอนเทรคตู้สื่อสาร “USO NET เฟส 2” ประมาณ 10,000 ตู้ มูลค่า 170 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทยังคาดว่าจะเซ็นสัญญารับงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล็ก เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลคาดว่าในปีหน้าผลประกอบการของบริษัทจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (ออลไทม์ไฮ)

สำหรับในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท นิตโต้ โตเกียว เทรดดิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 7.14 ล้านบาท โดยรวมเงินลงทุนอยู่ที่ 9.60 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 48% จากเดิม 41% ของทุนเรียกชำระแล้ว

อีกทั้งบริษัทยังได้ลงทุนในบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด หรือ MECT ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า-สื่อสาร ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย โดยได้มีการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 391,250 หุ้น ราคาหุ้นละ 388.86 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาท รวมมูลค่าการลงทุน 152.14 ล้านบาท

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.92 ล้านบาท หรือเติบโต 98.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.10 ล้านบาท ส่งผลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.79 ล้านบาท หรือเติบโต 29.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.16 ล้านบาท

โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากบริษัทได้รับเงินปันผลจำนวน 19.56 ล้านบาท หลังจากได้มีการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด หรือ MECT ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า-สื่อสาร ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย จำนวน 391,250 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วของ MECT ภายหลังการทำรายการ โดยมีการซื้อขายหุ้นในราคา 388.86 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้ 100 บาทต่อหุ้น รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าลงทุนอยู่ที่ 152.14 ล้านบาท

Back to top button