MCOT บวกแรง 19% รับข่าว กสทช.เรียกคืนคลื่น 2600 ลุ้นรับเงินเยียวยา

MCOT บวกแรง 19% รับข่าว กสทช.เรียกคืนคลื่น 2600 ลุ้นรับเงินเยียวยา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าราคาหุ้น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ณ เวลา 15.38 น. อยู่ที่ระดับ 10.80 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 18.68% สูงสุดที่ระดับ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36.81 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงวันนี้ หลังมีการรายงานว่า นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุม กสทช. เห็นชอบการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) จำนวนรวม 190 MHz โดยเรียกคืนจากบมจ.อสมท (MCOT) จำนวน 154 MHz กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก และกรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย รวม 2 หน่วยงานอีก 12 MHz ที่เหลือเป็นคลื่นว่างที่ไม่มีการใช้งาน เพื่อนำมาจัดสรรใหม่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล เพื่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็น 45 วันนับจากวันที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่ พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขการยุติการใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืน โดยในระหว่างดำเนินการให้สามารถใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืนดังกล่าวไปพลางก่อนได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 120 วันนับจากที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติสำรองค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย รายการเงินงบกลางของสำนักงาน กสทช. ประจำปี พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินมูลค่าการเรียกคืนคลื่นความถี่ และการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ การประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ในการนำมาใช้ในกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลในย่านความถี่ดังกล่าว จำนวน 3 ชุด รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,500,000 บาท และเมื่อมีการประมูลคลื่นความถี่ 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ เสร็จสิ้นแล้ว ให้ดำเนินการหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาดังกล่าวจากเงินรายได้ที่ได้รับจากการประมูล

 

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายนันทสิทธิ์ เล็กศรีสกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน MCOT กล่าวว่า จากกรณี กสทช. จะพิจารณาเรียกคืนคลื่น 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) จำนวน 190 MHz จาก MCOT บริษัทมองว่าหากต้องคืนคลื่นให้กับกสทช.ก็ควรได้รับเงินเยียวยาที่คุ้มค่า เพราะบริษัทสามารถนำไปต่อยอดในธุรกิจหลักได้ โดยบเฉพาะการออกอากาศผ่านเทคโนโลยี 5G อีกทั้งอายุที่เหลือของคลื่นเหลืออีก 15 ปี ซึ่งแตกต่างจากทางกสทช.ที่มองว่าบริษัทมีอายุการถือครองคลื่นอยู่ 3-5 ปี

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเจรจากับทาง กสทช.อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และบริษัทยังรอดูรายละเอียดของร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หรือนำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น ให้ออกมาชัดเจนก่อน พร้อมกับรอ กสทช.ส่งข้อเสนอแลกกับคลื่น 2600 MHz มาให้พิจารณา ซึ่งจะต้องดูถึงความคุ้มค่าในเรื่องต่างๆ โดยคาดว่าการเจรจากับ กสทช.จะมีความชัดเจนภายในปี 62

“เรายอมรับได้ทั้งเงิน หากเงินที่ กสทช.ให้มาเยียวยามีความคุ้มค่า ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ถึงคุ้มค่า เพราะการเจรจากับกสทช.ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งเราก็พยายายามคุยกับ กสทช.อยู่ตลอดว่าหากคืนคลื่นแล้ว กสทช.จะให้การเยียวยากับ อสมท.อย่างไร และมีทางออกหรือการชดเชยให้กับเราอย่างไร ซึ่งตอนนี้เราเข้าใจว่า กสทช.มีความจำเป็นที่นำคลื่นไปเปิดประมูล 5G …หากคุ้มค่าก็ยินดีที่จะคืนคลื่น แต่หากไม่คุ้มค่าเราก็สามารถนำคลื่นไปพัฒนาต่อได้ โดยที่เราอยากให้จบภายในปีนี้”นายนันสิทธิ์ กล่าว

ด้านแนวโน้มภาพรวมผลการดำเนินงานของ อสมท.ในปี 62 คาดว่าจะไม่ขาดทุน เพราะการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัทที่เริ่มเห็นผลมาตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นมา ทำให้ทิศทางของต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ จึงมึโอกาสที่ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้น

ประกอบกับกลยุทธ์ของบริษัทที่หันไปเน้นรับงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้กับหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น ทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น และในปีนี้ได้รับปัจจัยหนุนจากการจัดเลือกตั้งและพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ที่มาจากหน่วยงานภาครัฐเข้ามาเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ระหว่างงานภาครัฐและเอกชนอยู่ที่ 50:50

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ภายในครึ่งปีแรกของปี 62 ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมีเดียในรูปแบบใหม่ โดยจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตรในการผลักดันธุรกิจใหม่นี้ออกมา

Back to top button