โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” PTG เป้า 23 บ. มองผลงานปี 62 โตเด่น EBITDA พุ่ง 50%

โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” PTG เป้า 23 บ. มองผลงานปี 62 โตเด่น EBITDA พุ่ง 50%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG หลังวานนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงจนมาปิดที่ระดับ 22.70 บาท บวก 1.10 บาท หรือบวกไป 5.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTG วางเป้าเชิงกลยุทธ์ 23 บาท โดยมองว่าราคาหุ้นยังไม่สะท้อนการเติบโตของธุรกิจไบโอดีเซล ซึ่งการที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมธุรกิจไบโอดีเชล ทั้งจากการเข้าแทรกแซงราคาปาล์มดิบและการส่งเสริมให้มีการปรับใช้ B7 เป็น B10 หรือ B20 ซึ่งโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ของ PTG จะได้ผลบวกอย่างเต็มที่ และคาดช่วงปลายไตรมาส 3/62 จะเดินเครื่องผลิตเต็ม 100% จากปัจจุบันเดินเครื่อง 60% ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น

สำหรับผลงานในไตรมาส 2/62 คาดกำไรดีต่อเนื่องแม้ไม่เท่ากับไตรมาส 1/62  ที่ดีมากกว่าปกติ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลใช้น้ำมันที่มากขึ้น และการจำหน่าย B20 ในสถานีบริการน้ำมันก็มีการเติบโตสูงขึ้น

ขณะที่ปัจจุบันเทรด P/E 18 เท่าแต่ PTG เป็นหุ้นเติบโต ดังนั้นควรประเมินมูลค่าหุ้นโดยวิธี PEG ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 0.6 เท่า ของอัตราการเติบโตเฉลี่ย

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ภาพรวมปี 2562 เป็นปีที่ผลประกอบการคาดว่าจะดีมาก โดยยังคงเป้าหมายมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 2561 เนื่องจากทุกธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปี 2562 จะมีรายได้อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่อยู่ระดับ 1.08 แสนล้านบาท พร้อมทั้งค่าการตลาดยังปรับตัวเพิ่มมาอยู่ระดับที่เหมาะสม โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาทต่อลิตร เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่อยู่ระดับประมาณ 1.60 บาทต่อลิตร และยังควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

สำหรับปี 2562 วางงบลงทุนที่ระดับ 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น รองรับการขยายธุรกิจใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากธุรกิจหลัก จำนวน 500 ล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจ Non-Oil อีก 500 ล้านบาท และใช้สำหรับการขยายสาขาของสถานีบริการ 2,500 ล้านบาท

ส่วนโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ คาดว่าช่วงปลายไตรมาส 3/2562 หรือไตรมาส 4/2562 จะเดินเครื่องผลิตเต็ม 100% จากเดิมที่เดินเครื่องผลิต 40-60% ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับ B20 ที่ผลักดันการเติบโต

“ปี 2562 เป็นปีที่ผลประกอบการจะดีมาก ด้วยปัจจัยสนับสนุน 3 อย่าง คือ ยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมค่าการตลาดที่ดีขึ้นมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และเราสามารถควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ จึงยังคงเป้าจะมี EBITDA เติบโต 40-50%” นายพิทักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในช่วงทดสอบธุรกิจก๊าซ LPG สำหรับภาคครัวเรือนภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเอง รวมทั้งยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจดังกล่าวด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าภายในปี 2563 เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจของบริษัท

Back to top button