สบช่องสอย EA ช่วงราคาอ่อนตัว โบรกฯย้ำพื้นฐานแกร่ง เคาะเป้า 57.57 บ.อัพไซด์เฉียด 40%

สบช่องสอย EA ช่วงราคาอ่อนตัว โบรกฯย้ำพื้นฐานแกร่ง เคาะเป้า 57.57 บ.อัพไซด์เฉียด 40%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์หุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA หลังราคาปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง หลังมีกระแสข่าวลือว่า สหกรณ์แท็กซี่ล้มดีลจองรถไฟฟ้า จำนวน 3,500 คัน โดยล่าสุด นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้ออกมาปฏิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแล้ว

“ข่าวลือที่ออกมาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเดินหน้าตามแผน เราทำงานร่วมกับทางสหกรณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้แผนการผลิตและส่งมอบสอดรับกันทั้งสองฝ่าย โดยคาดว่าจะเริ่มทำการส่งมอบรถได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะรวมทั้งการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้ารายอื่นๆ ที่จองเข้ามาด้วยเช่นกัน” นายอมร กล่าว

ดยราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้อยู่ที่ระดับ 41.50 บาท ลบ 4 บาท หรือ 8.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.77 พันล้านบาท ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1ปี มีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 57.75 บาท อยู่ 39%

ขณะเดียวกัน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น EA พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ 57.75 บาท/หุ้นดยหลังจากราคาหุ้นร่วงแรงกว่า 8% ว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ EA ยังคงดำเนินงานปกติดี โรงไฟฟ้าทั้งหมดผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าคาด ทำให้กำไรไตรมาส 3/62 คาดจะขยายตัวดีทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนแผนธุรกิจอื่นๆ ดำเนินตามแผน โดยโรงแบตฯ เฟสแรก 1 กิ๊กกะวัตต์ โรงงานอยู่ระหว่างการอนุญาตจากทางราชการ แต่บริษัทมั่นใจว่าจะผลิตออกมาได้ในปี 2563 ตามแผน โดยหากล่าช้าออกไป บริษัทก็มีแผนจะใช้โรงงานสำรองรวมถึงใช้โรงงาน Amita ไต้หวัน ทำการผลิตในช่วงแรกได้ ซึ่งได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ โครงการแบตฯไม่ได้อยู่ในประมาณการของบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) อยู่แล้ว และยังมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงจากความกังวลข้างต้นของนักลงทุนที่ bullish กับเรื่องแบตฯ ที่มาก และเร็วเกินไป สำหรับการลงทุนที่มองโรงไฟฟ้าเป็นฐาน จึงมองว่าเป็นโอกาสสะสม

ส่วน บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ นะนำ “ซื้อ” หุ้น EA ประเมินราคาเป้าหมาย 56 บาท/หุ้น ยังคงเลือกจากสถิติ 5 ปีย้อนหลัง พบว่า เดือน พ.ย. ราคาหุ้น EA จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 4.19% และให้ผลตอบแทนเป็นบวก 4 ใน 5 ปี ขณะที่ปัจจัยหนุน คาดกำไรครึ่งปีหลังปี 2562 เติบโตมีนัยฯจากครึ่งปีแรกปี 2562 โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 เท่ากับ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 7.2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ผลจากกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน จากธุรกิจไฟฟ้าพลังลม (รวม 385 MW) ได้ผลบวกจากฤดูมรสุม และการรับรู้โรงไฟฟ้าลมหนุมานเต็มไตรมาส

ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4/62 คาดเติบโตต่อจากไตรมาส 3/62 ทำระดับสูงสุดของปี หนุนหลักจากโรงไฟฟ้าโซลาร์จะกลับมาผลิตไฟได้สูงขึ้นตามฤดูกาลหลังหมดฤดูฝน นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากธุรกิจไบโอดีเซลที่คาดทั้งปริมาณและราคาขาย B100 จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลในช่วงปลายปี

Back to top button