จัดกลยุทธ์ลุยหุ้นช่วงตลาดฯผันผวน เคาะ 5 กลุ่มหลักขานรับปัจจัยบวก

จัดกลยุทธ์ลุยหุ้นช่วงตลาดฯผันผวน เคาะ 5 กลุ่มหลักขานรับปัจจัยบวก


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมบทวิเคราะห์ที่แนะนำกลยุทธ์สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีความผันผวนในกรอบ 1,590-1,615 จุด อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุน เริ่มทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยหุ้น BJC , SEAFCO ,ERW ,CPALL ,ASK ,SAWAD , SELIC , ARROW ,BCH ,PRM ,SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA และ PLANB

บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมองว่าสัปดาห์นี้ แม้ตลาดจะมีแนวโน้มรีบาวด์กลับขึ้นมา แต่ยังมองในทางลง โดยประเมิน Upside จำกัด หลังเกิด Sector Rotation จากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าไปยังหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร

ขณะที่ปัจจัย Trade war สหรัฐฯ-จีน ยังคงเป็นประเด็นหลักที่ Drive ตลาดในต่างประเทศ อีกทั้งในสัปดาห์จะเป็นช่วงการประกาศผลประกอบการซึ่งคาดทำให้ SET Index ผันผวนในกรอบ 1,590-1,615 จุดตามเดิม อย่างไรก็ดีแนะนำนักลงทุน เริ่มทยอยลงทุนในหุ้น 5 กลุ่ม ดังนี้

สำหรับหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), ERW (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วงไตรมาส 3/62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา)

กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.

กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วงไตรมาส 2/62 คาดโต YoYและช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8% จากปีก่อน หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), ,ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆ เพิ่ม)

หุ้นกลุ่มร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วงไตรมาส 3/62โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วงไตรมาส 3/62 คาดกำไรโตทั้งจากไตรมาสก่อน,จากปีก่อน หนุนด้วยการเข้าสู่ช่วงHigh Seasonบวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยงขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่ม ชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 คาดกำไรโตจากปีก่อน หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจากรพ.ที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง รพ.จุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และ รพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทรา บวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)

หุ้นที่คาดกำไรช่วงไตรมาส 3/62 โตจากปีก่อน, จากไตรมาสก่อน และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, BPP, JWD, SABINA, S11, AMATA, PLANB และ PRM

Back to top button