JAS – วิกฤติศรัทธา

กูรูชี้การเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ DTAC และ MONO จะเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับ JAS ได้เป็นอย่างดี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 75 บ.


นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ที่ราคาเป้าหมาย 6.7 บาท : เพื่อรับเงินปันผลจากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF ซึ่งคาดว่า JAS จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 1.72 บาทต่อหุ้น นอกจากนั้น ยังมีมุมมองเป็นบวกสำหรับธุรกิจบรอดแบนด์ ซึ่งน่าจะยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกพอสมควร ขณะที่เชื่อว่าการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ DTAC และ MONO จะเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับ JAS ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากจากจุดสูงสุดที่ 7.85 บาทในวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ถึง 35.67% มาที่ระดับ 5.05 บาทในปัจจุบันน่าจะสะท้อนปัจจัยลบที่เกิดจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่และอดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารถูกกล่าวโทษโดย ก.ล.ต.ไปมากแล้ว

ราคาหุ้น JAS ชนะ SET index ในปี 2562 : ราคาหุ้น JAS ปรับตัวขึ้นมา 13.23% จากสิ้นปี 2561 นับว่าแข็งแรงกว่า SET index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 0.5% อันเนื่องมาจากความคาดหวังของนักลงทุนจากเงินปันผลที่จะได้รับจากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF อย่างไรก็ตาม หุ้น JAS ปรับตัวขึ้นสูงไปถึง 7.85 บาท หรือ 76% จากปีก่อน ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ก่อนจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ภายหลังจากการปรับขนาดของธุรกรรมการขายสินทรัพย์เข้า JASIF และล่าสุดที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกกล่าวโทษโดย ก.ล.ต. นอกจากนั้น นักลงทุนยังเพิ่มความกังวลต่อสภาพการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดบรอดแบนด์โดยผู้เล่นรายใหม่อย่าง ADVANC การมาของเทคโนโลยี 5G ที่อาจจะมาเป็นคู่แข่งกับบริการบรอดแบนด์

JAS กับการประมูล 5G : ตามที่ผู้บริหารของ JAS กล่าวไว้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญครั้งล่าสุดที่ว่า JAS ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่น 5G ในครั้งนี้ มองว่าการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ DTAC น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้นเชื่อว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในบริการ 5G โดยที่ไม่มีบริการ 4G เป็นฐาน จะยากยิ่งต่อการหาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากผู้บริหาร JAS เกิดเปลี่ยนใจและตัดสินใจเข้าร่วมประมูลคลื่น 5G เชื่อว่าหุ้น JAS จะถูกเทขายอย่างหนัก

JAS กับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง DTAC : ค่อนข้างแปลกใจกับการจับมือกันทางธุรกิจระหว่าง JAS ที่มีความน่าสงสัยในระดับธรรมาภิบาล กับ DTAC ที่มีความเข้มงวดเรื่องธรรมาภิบาล แต่หากพิจารณาแต่เพียงปัจจัยทางธุรกิจ เชื่อว่าพันธมิตรทางธุรกิจดังกล่าวจะเติมเต็มความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองฝ่ายไม่มากก็น้อย ตัวอย่างเช่น ทั้ง JAS และ DTAC จะสามารถนำเสนอแพ็กเกจที่แข่งขันได้กับ ADVANC และ TRUE เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มรายได้จากฐานลูกค้าเก่าของแต่ละรายและรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง JAS และ DTAC จะสามารถขยายฐานลูกค้าองค์กรได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ทั้งสองน่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายในประเทศ ต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในช่องทางจัดจำหน่าย ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถประเมินถึงมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากพันธมิตรทางธุรกิจได้ในขณะนี้

ผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 : ตามหลักการ ผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างจะได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานรายการทางการเงินฉบับที่ 16 รวมถึง JAS เนื่องด้วยธุรกิจโทรคมนาคมมีค่าเช่าเป็นค่าใช้จ่ายหลักตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลกระทบต่อราคาหุ้นจะมีจำกัด เนื่องจากกระแสเงินสดจะไม่เปลี่ยนไป และราคาหุ้นของผู้ประกอบการโทรคมนาคมในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีดังกล่าว

Back to top button