โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” BANPU หลังเพิ่มพอร์ตลงทุนธุรกิจก๊าซฯ ชูราคาสูง 16 บ. อัพไซด์พุ่ง 38%

โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" BANPU หลังเพิ่มพอร์ตลงทุนธุรกิจก๊าซฯ ชูราคาสูง 16 บ. อัพไซด์พุ่ง 38%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยมีนักวิเคราะห์หลายแห่งกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BANPU หลังเพิ่มพอร์ตลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ด้วยการประกาศเข้าซื้อแหล่งก๊าซฯขนาดใหญ่ในสหรัฐ ด้วยมูลค่า 770 ล้านเหรียญสหรัฐ นับว่าไม่แพง และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/63 ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความผันผวนจากธุรกิจถ่านหิน

เบื้องต้นประเมินจะสร้าง EBITDA ให้กับ BANPU ได้ปีละ 100-150 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ดีลนี้ไม่ได้เพิ่มกำไรให้กับ BANPU มากนักในระยะสั้นด้วยราคาก๊าซฯที่ยังอ่อนแอ ส่วนระยะยาวคาดว่าความต้องการก๊าซฯจะเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังไม่ได้ประเมินผลประกอบการและมูลค่าที่เหมาะสมจากการเข้าลงทุนในครั้งนี้ โดยยังต้องรอการซื้อขายเสร็จสิ้นก่อน แต่เบื้องต้นผลประกอบการของ BANPU ยังคงถูกกดดันจากธุรกิจถ่านหินที่อ่อนแอ ตามแนวโน้มราคาถ่านหินที่ลดลง และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

ด้านนางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า การที่ BANPU จะเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซฯขนาดใหญ่ที่ดำเนินการอยู่แล้วในสหรัฐอเมริกา นับว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่จะพยายามเพิ่มสัดส่วนกำไรในธุรกิจก๊าซฯเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันที่อยู่ต่ำกว่า 10% แต่ด้วยราคาขายก๊าซฯ ในตลาด Henry Hub ที่ยังต่ำ ทำให้กำไรอาจยังไม่หวือหวาในระยะแรก ประเมินเบื้องต้นคาดว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากการเข้าลงทุนในแหล่งก๊าซฯแห่งใหม่นี้จะอยู่ที่ราว 100-150 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี

“ราคาก๊าซฯ Henrry Hub ปัจจุบันอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ทำให้กำไรที่จะได้จากการลงทุนไม่ใช่ประเด็นหลักในการเข้าซื้อ กิจการในครั้งนี้ของ BANPU แต่อยากให้มองภาพยาวที่เป็นการลงทุนที่สอดรับกับกลยุทธ์ของ BANPU ที่จะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจ Non-coal เพิ่มขึ้น และยังมองเป็นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว และหากราคา Henry Hub ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต จะยิ่งเป็นupside ที่จะเข้ามาผลักดันการเติบโตของกำไร ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับ BANPU ที่จะเข้าสู่ธุรกิจก๊าซฯในสหรัฐอย่างเต็มตัว” นางสาวนลินรัตน์ กล่าว

นางสาวนลินรัตน์ กล่าวอีกว่า BANPU จะเข้าซื้อแหล่งก๊าซฯบาร์เนตต์ และเป็นผู้ดำเนินการผลิต ด้วยเงินลงทุน 770 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.3 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/63 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตก๊าซฯ ในสหรัฐที่ BANPU มีอยู่ราว 200 ล้านลูกบาศก์ฟุต (ลบ.ฟ.)/วัน จากแหล่ง Marcellus shale รัฐเพนซิลเวเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านลบ.ฟุต/วัน รวมถึงจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซฯที่พิสูจน์แล้ว (1P) เป็น 4.2 ล้านล้านลบ.ฟุต จากปัจจุบันที่อยู่ราว 1.2 ล้านล้านลบ.ฟุต

ขณะที่ในด้านแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการกู้ยืมเงิน ซึ่งจะทำให้หนี้สินสุทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Net Debt/Equity) เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.1 เท่า แต่ก็ช่วยผลักดันการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจก๊าซฯ ขณะเดียวกันก็จะทำให้สัดส่วนกำไรจากธุรกิจถ่านหินที่ยังมีความผันผวนให้ลดลงเช่นกัน

ขณะที่ บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การเข้าซื้อกิจการแหล่งก๊าซฯแห่งใหม่ของ BANPU ในช่วงเวลานี้ ถือว่าเหมาะสม แม้ว่าราคาก๊าซฯ Henry Hub จะปรับลดลงจากปัญหา Over supply ในสหรัฐก็ตาม โดยยังมีมุมมองเป็นบวกในระยะยาวต่อ BANPU จากการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปสู่ธุรกิจก๊าซฯ ลดสัดส่วนการรับรู้รายได้จากธุรกิจถ่านหินที่มีความผันผวนสูง

อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการยากต่อการประเมินผลประกอบการ และมูลค่าเหมาะสมที่จะเพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว แต่เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเพิ่ม EBITDA ให้กับ BANPU ได้ปีละ 100-150 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันการดำเนินงานยังต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการขุดสำรวจหลุมผลิตเพิ่มปีละ 15-20 หลุมผลิต คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 6-7 ล้านเหรียญสหรัฐ/หลุมผลิต เพื่อที่จะรักษาระดับการผลิตไว้ที่ 500 ล้านลบ.ฟ./วัน

Back to top button