AEC กับดัก 2 เด้ง.!?

เกิดอาการช็อกไม่น้อย..!! เมื่ออยู่ ๆ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC...หนึ่งในบล.ที่มีสีสันในแวดวงตลาดทุน ผู้ถือหุ้นมีชื่อชั้นไม่ธรรมดา เกิดมาสะดุดก้อนหินจนเกือบหัวทิ่ม...


สำนักข่าวรัชดา

เกิดอาการช็อกไม่น้อย..!! เมื่ออยู่ ๆ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC…หนึ่งในบล.ที่มีสีสันในแวดวงตลาดทุน ผู้ถือหุ้นมีชื่อชั้นไม่ธรรมดา เกิดมาสะดุดก้อนหินจนเกือบหัวทิ่ม…

กับดักแรก…หลัง AEC ประกาศงบไตรมาสแรกออกมา ก็ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับปริ่มน้ำ และสุ่มเสี่ยงที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะต่ำกว่าทุนจดทะเบียน 50% ถ้างบไตรมาส 2 ยังเป็นตัวเลขขาดทุน…ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง

เพราะขนาดไตรมาสแรก เจอพิษโควิด-19 เล่นงานไม่ถึง 1 เดือนเต็ม ยังขาดทุนปาไป 40 ล้านบาท แล้วไตรมาส 2 นี่โดนไป 2 เดือนเต็ม ไม่อยากคิดว่าตัวเลขจะพุ่งไปขนาดไหน…

ส่วนอีกกับดัก…เป็นกรณีถูกสำนักงานก.ล.ต.สั่งให้ปรับปรุงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนด จนถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนป้าย SP

สารตั้งต้นมาจากการที่ AEC ไปซื้อหุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ซึ่งถูกลดเครดิตเรตติ้งจาก A เป็น C อย่างกะทันหัน ไว้เยอะ…

ก็ชัดเจนว่า การบินไทยไม่มีเงินจ่ายคืน…เลยทำให้ยังไถ่ถอนคืนไม่ได้ สุดท้ายต้องรอไปก่อน รอต่อคิวกับเจ้าหนี้รายอื่น ขณะที่แผนฟื้นฟูการบินไทยยังไม่เห็น พิมพ์เขียวยังไม่มี…ทำให้หุ้นกู้ล็อตนี้ยังล่องลอยอยู่ในอากาศ

เมื่อไม่สามารถเก็บหนี้ได้ ก็กระทบต่อสภาพคล่องของ AEC …ไม่ต่างจากเงินหน้าตักที่หายไป ขณะที่ธุรกิจ AEC เกี่ยวข้องกับพอร์ตของลูกค้าเยอะ พอมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ก็จะยิ่งเสี่ยง

กลายเป็นเผือกร้อนที่ AEC ต้องเร่งหาทางแก้โดยด่วน…

ทำให้ AEC ไม่มีทางเลือกต้องอาศัยการเพิ่มทุน..!!

แผนแรกจะออกหุ้นเพิ่มทุน 750 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (OR) แต่อาจไม่พอ จึงต้องปรับแผนใหม่เพิ่มเป็น 4,500 ล้านหุ้นแทน เพื่อไปแก้โครงสร้างทุน ซึ่งมีโอกาสที่ส่วนของผู้ถือหุ้นจะต่ำกว่าทุนจดทะเบียนเกิน 50% รวมถึงแก้ปัญหาเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ในระยะยาว

ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความหวังกับหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้น AEC กลับมาวิ่งร้อนแรง 4 วันติด โดยวานนี้ปิดตลาดที่ระดับ 0.37 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 12.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.6 ล้านบาท

ล่าสุดก็ได้ไฟเขียวจากสำนักงาน ก.ล.ต.ให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากได้เงินจากการระดมทุนมาก้อนหนึ่งจำนวน 150 ล้านบาท จนทำให้ AEC ดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้ตามเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต.

แต่นี่เป็นแค่การแก้ผ้าเอาหน้ารอดเท่านั้น…

ถ้าจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืนก็ต้องอาศัยเม็ดเงินจากการเพิ่มทุน ซึ่งยังไม่รู้ว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะใส่เงินเข้าไปมากน้อยแค่ไหน..? ยังไม่มีใครสามารถตอบได้

แต่ถ้าดูจากผลงานของ AEC ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่ยังสะกดคำว่า “กำไร” ไม่เป็น…บวกกับแนวโน้มธุรกิจโบรกเกอร์ที่ไม่อู้ฟู้เหมือนก่อน

ก็น่าคิดว่า การใส่เงินเข้าไปครั้งนี้จะสูญเปล่าหรือไม่..?

ที่สำคัญจะ “ก้าวข้าม 2 กับดัก” ได้อย่างไร

ผู้ถือหุ้น AEC คงต้องเลือกแล้วล่ะ.!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button