GULF ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่ “INTUCH” อันดับ 4 โบรกฯชี้เปิดอัพไซด์กำไร-หนุนราคาเป้า!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เข้าถือหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ INTUCH จำนวน 147,044,400 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.59% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 จากข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 22 มิ.ย.2563

ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าวส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้น GULF เข้ามาอย่างหนาแน่น โดย ณ เวลา 11.28 น. อยู่ที่ระดับ 38 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 7.04% สูงสุดที่ระดับ 38.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 35.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท

ด้านบล.กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ถือ” หุ้น GULF ราคาเป้าหมาย 35.50 บาท/หุ้น โดยมองว่าการที่ GULF เข้าถือหุ้นใน INTUCH สัดส่วน 4.6% จะทำให้ผลตอบแทนเงินสดเพิ่มสูงขึ้นจาก DY ระดับสูง และถือเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านธุรกิจ พร้อมคาดว่าธุรกรรมนี้จะทำให้บริษัทมีกำไรส่วนเพิ่ม 0.3 พันล้านบาทในช่วงปี 64-65 และ 0.5 บาทต่อราคาเป้าหมายที่อิงประมาณการการกู้ยืมที่ 50%

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมิน upside ต่อกำไรส่วนเพิ่มแต่ละปีราว 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 4% ของประมาณการกำไรปี 2563 เนื่องจากหากอิงจากราคาเฉลี่ยของ INTUCH ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (26 ก.พ.-22 มิ.ย.20) คาด GULF ใช้เงินสำหรับการลงทุนในครั้งนี้ราว 7.5 พันล้านบาท

ดังนั้นหากแหล่งที่มาของเงินมาจากการกู้ทั้งหมด คาดจะทำให้อัตราหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มเป็น 2.9 เท่าจากสิ้นไตรมาส 1/63 ที่ 2.7 เท่า (ไม่รวมหนี้ส่วนของผลกระทบ TFRS16 ที่บริษัทชี้แจงว่าไม่ได้กระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร) ซึ่งเป็นระดับที่เริ่มตึงตัว

อย่างไรก็ดี ด้วยจุดเด่นของ INTUCH ที่เป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอปีนี้ คาดจ่ายได้ 2.4-2.5 บาท/หุ้น จึงคาดว่า GULF จะได้เงินปันผลรับจากการลงทุนครั้งนี้ราว 350 ล้านบาท และเมื่อหักต้นทุนดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นทำให้ประมาณการกำไร GULF ในปีนี้มีโอกาสเกิด upside ราว 200 ล้านบาท (4% ของประมาณการกาไรปัจจุบัน) และเป็น upside ต่อราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 22.40 ราว 0.7 บาท/หุ้น หรือเพิ่มขึ้น 3% (ใช้สมมติฐาน COE ที่ 6.7%, dividend growth 4%)

สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้น INTUCH 5 อันดับแรก

ลำดับ	ผู้ถือหุ้นรายใหญ่	จำนวนหุ้น (หุ้น)	% หุ้น
1.	SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD.	673,348,264	21.00
2.	บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด	510,674,007	15.93
3.	THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED	166,753,460	5.20
4.	บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)	147,044,400	4.59
5.	SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED	81,370,774	2.54