GSC โดนแบ็กดอร์..?

การแก้ปัญหาชีวิตของบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ด้วยการยอมตัดทิ้งลูกในไส้อย่างบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC โดยตัดใจขายหุ้นทั้งหมด 64% ให้กับ “ประยูร อัสสกาญจน์” ในราคา 1 บาทต่อหุ้น ได้เงินไป 159 ล้านบาท


สำนักข่าวรัชดา

การแก้ปัญหาชีวิตของบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP ด้วยการยอมตัดทิ้งลูกในไส้อย่างบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC โดยตัดใจขายหุ้นทั้งหมด 64% ให้กับ “ประยูร อัสสกาญจน์” ในราคา 1 บาทต่อหุ้น ได้เงินไป 159 ล้านบาท

ในมุม ACAP ได้เงินมาหล่อเลี้ยงสภาพคล่อง 159 ล้านบาท ก็น่าจะช่วยต่อลมหายใจได้อีกเฮือก…หลังจากประสบปัญหาเงินขาดมือจนไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้

ขณะที่ ลูกในไส้ก็กลายเป็นของ “ประยูร” ไป และเนื่องจากเข้าเกณฑ์ถือครองหลักทรัพย์เกิน 50% จะต้องทำเท็นเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นรายย่อยตามเงื่อนไข

แต่ประเด็นที่น่าจับตาคือ…“ประยูร” จะเอา GSC ไปทำอะไร..?

ถ้าจะทำธุรกิจเดิม…ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ และติดตามทวงหนี้ ก็น่าจะต่อยอดลำบาก เนื่องจาก “ประยูร” ก็โนเนมในธุรกิจนี้ แถมไม่ถนัดอีกต่างหาก

ขณะที่ บังเอิ๊ญบังเอิญไปพบว่า ตัว “ประยูร” นั้น ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว ภายใต้ชื่อบริษัท อัสสกาญจน์ จำกัด ซึ่งโปรไฟล์ก็ใช้ได้ เป็นผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ THE RIK, ASAKAN CITY และ ASAKAN PLACE

ถ้าไปส่องข้อมูล อัสสกาญจน์ พบว่า ก่อตั้งเมื่อปี 2544 ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลังที่แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2559 มีรายได้รวม 213 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 223 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7 ล้านบาท และปี 2561 มีรายได้รวม 85 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3 ล้านบาท

ก็ยังมีกำไรให้เห็น…แม้จะลดลงต่อเนื่องก็ตาม

เอ๊ะ..!! จะเป็นไปได้มั้ยว่า เมื่อ “ประยูร” กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GSC เท่ากับได้กระดองมา…อาจสบจังหวะเอาอัสสกาญจน์มาสวมแทน เป็นการแบ็กดอร์ GSC เพื่อเข้าตลาดฯ…

ซึ่งถ้าดูในแง่ของผลประกอบการ GSC ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ปี 2559 มีรายได้รวม 135 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 151 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 153 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 147 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12 ล้านบาท

ล่าสุดไตรมาส 1/2563 มีรายได้รวม 32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 0.49 ล้านบาท

แต่จุดเด่นของ GSC เข้าตลาดเมื่อปีที่แล้ว บริษัทนี้ยังมีกระแสเงินสด ได้เงินไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น (ตั๋ว P/N) จาก ACAP มีสภาพคล่องจากการระดมทุนค้างอยู่

นั่นเท่ากับว่า “ประยูร” ใช้เงินแค่ 159 ล้านบาท แต่ได้ถึง 2 ต่อ…ต่อแรกได้บริษัทที่มีกระแสเงินสดมาอยู่ในมือ

ส่วนอีกต่อ…อาจอาศัยจังหวะนี้ เอาธุรกิจอสังหาฯ ที่มีอยู่เดิมมาแบ็กดอร์แทน

ถ้าไม่ผิดไปจากนี้ ก็ถือเป็นการเข้าตลาดที่มีต้นทุนถูกมว๊ากกก…

ก็ต้องจับตาดูว่า “ประยูร” จะเดินเกมตามนี้หรือเปล่า..?

แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้กลิ่นอายแบ็กดอร์มันชักเตะจมูกนักลงทุนแล้วน่ะสิ…

หรือเฮียประยูร จะแย้งว่าไม่ใช่ ก็บอกกล่าวกันได้

ยินดีรับฟังนะเจ้าคะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button