ทำนบแตก

*ดูเหมือนแนวรับทางจิตวิทยาบริเวณ 1,250 จุด ที่กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากจะสามารถต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาเป็นจำนวนมากเอาไว้ได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าว เพราะภายหลังกลับมีแรงสาดหุ้นเข้ามาแบบคนเลือดร้อน ดัชนีถึงรูดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,241.52 จุด และมาลงเอยที่ระดับ 1,247.46 จุด ลบไป 16.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.62 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกว่าตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าตาจนซะแล้ว


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนแนวรับทางจิตวิทยาบริเวณ 1,250 จุด ที่กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากจะสามารถต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาเป็นจำนวนมากเอาไว้ได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าว เพราะภายหลังกลับมีแรงสาดหุ้นเข้ามาแบบคนเลือดร้อน ดัชนีถึงรูดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,241.52 จุด และมาลงเอยที่ระดับ 1,247.46 จุด ลบไป 16.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.62 หมื่นล้านบาท ยิ่งทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกว่าตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าตาจนซะแล้ว

*นั่นหมายความว่า หากดัชนีไม่สามารถยึดแนวรับดังกล่าวไว้ได้ เท่ากับว่าโพสิชั่นของหุ้นไทยเริ่มเสียศูนย์ และมีโอกาสที่จะทรุดลงไปถึง 1,200 จุดแบบง่าย ๆ แถมภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังเป็นตัวกดดันทำให้เห็นว่าหนทางที่จะฟื้นกลับนั้นแสนยากลำบาก เดี๊ยนถึงได้เห็นนักลงทุนบางกลุ่มยอมตัดใจขายขาดทุน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นดีกว่าต้องเจ็บตัวซ้ำ ๆ เหมือนกับที่เคยโดนมาแล้วยังไงล่ะเจ้าคะ

*การทิ้งหุ้นอย่างหนักหน่วงในเที่ยวนี้ มันสะท้อนให้นักเล่นได้รู้ว่า เมื่อเหตุการณ์หลายอย่างยังรุมเร้า นักลงทุนสถาบันและต่างชาติเอาแต่เทขาย หุ้นถึงยังไม่มีแรงดึงดูด ดังนั้น “โมนิก้า” จึงไม่เห็นความจำเป็นต้องถือหุ้นอีกต่อไป และการที่ดัชนีถึงกับรูดมหาราชเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า สิ่งที่จะได้เห็นต่อจากนี้จะต้องสร้างความสะเทือนใจให้หลาย ๆ คนไปอีกพักใหญ่

*หันมาดู CPF ออกอาการเสียทรงอย่างชัดเจน ล่าสุดอ่อนตัวลงมาปิดที่ 28.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือ 3.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.3 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้กลยุทธ์แบบกำขี้ดีกว่ากำตด หลังเห็นราคาหุ้นโค้งตัวลงหลายวันติดต่อกัน บวกกับสัญญาณทางเทคนิคยังไม่เห็นวี่แววการฟื้นตัว “โมนิก้า” มองว่าการที่จะลุ้นให้ขึ้นไปยืนเหนือ 30 บาทได้อีกครั้งสงสัยจะยากเจ้าค่ะ

*หันมาที่ CCET ที่มีการเคลื่อนไหวแบบหวือหวา และสามารถใช้เป็นเครื่องเตือนใจเหล่าคนที่คิดช้าทำช้าได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อหุ้นลงมาถึงจุดต่ำสุดกลับมีการลากขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.36 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือ 9.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225.03 ล้านบาท แต่เดี๊ยนกลับมองว่าเมื่อหุ้นขึ้นไปถึงจุดพีกโอกาสที่จะไปต่อคงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ ขึ้นต้องขาย เชื่อน้องโมเถอะ

*ฟากหุ้น TOP แรงเทขายไม่มีทีท่าจะเบาบางลงเลย ส่งผลให้หุ้นย่อตัวต่อเนื่อง ก่อนมาปิดที่ 33 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลบ 5.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 838.96 ล้านบาท “โมนิก้า” ยังไม่อยากให้รีบเข้าไปรับของถูก เพราะน่าจะมีของถูกกว่านี้ให้ช็อปปิ้งอีกเพียบ แถมทิศทางของหุ้นก็ยังโค้งตัวลงอย่างเห็นได้ชัดแสดงให้เห็นว่าแรงขายยังไม่สะเด็ดน้ำ คนที่รีบรับของไปเมื่อวันก่อนอาจมีโอกาสช้อนหักได้เจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ AOT ถูกแรง กระแทก เข้ามาอย่างจังตั้งแต่เปิดการซื้อขายเช้าวานนี้ เพราะต้องการให้ ฝนตกทั่วฟ้า ด้วยการประกาศเว้นค่าเช่าลูกค้าสายการบินยาวไปถึงปี 65 ทำให้ราคาหุ้นทรุดลงมาปิดที่ระดับ 56.50 บาท ลบ 2.50 บาท หรือลบไป 4.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.78 พันล้านบาท  “โมนิก้า” มองว่าเป็นการเช็กบิลเรื่องเก่าให้จบกันไป ต่อจากนี้คงมีแต่เรื่องของผลงานที่ต้องโฟกัส เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มฟื้นตอนไหนเท่านั้นล่ะตะเอ๊งงง

*ด้านหุ้น ZIGA วานนี้ราคาร้อนแรงเกือบชนซิลลิ่ง ! ขึ้นปิดที่ระดับ 2.16 บาท บวก 0.26 บาท หรือ 13.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.89 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบ 16 เดือน งานนี้ “โมนิก้า” เลยไปเผือกหาข้อมูลมาให้แฟน ๆ พบว่ามีแววที่กำไรทั้งปีจะโตทะลักเกิน 2 เท่าตัว แถมเซียนหุ้นออกมาเชียร์ซื้อพร้อมเคาะเป้าสูง 2.70 บาท ถึงไม่แปลกใจที่จะเห็นหุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อยังไงล่ะเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายด้วยหุ้นสีสันอย่าง ITEL ยังเหนียวหนึบด้วยการไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.04 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 4.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31.56 ล้านบาท แบบโนสนโนแคร์ภาวะตลาด ให้สายเฟี้ยวเล่นสั้นทำกำไรกันแบบสบาย ๆ ยิ่งหากผ่าน  3.10 บาทไปได้ก็มีสิทธิ์ลุ้นวิ่งต่อเพื่อทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 3.30 บาท ส่วนใครที่ตกรถ จะรอให้หุ้นย่อลงมาแล้วเล่นรอบใหม่ยังไม่สาย เพราะพื้นฐานเขาก็ยังแน่นปึ้ก ! งานนี้จะสั้นหรือยาวก็ยังรอดเจ้าค่ะ

Back to top button