EASTW คาดรายได้ปี 64 โต 10% รับยอดขายน้ำฟื้น-คว้างานภาครัฐ สัญญาเกือบ 30 ปี

EASTW คาดรายได้ปี 64 โต 10% รับยอดขายน้ำฟื้น-คว้างานภาครัฐ สัญญาเกือบ 30 ปี


นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เปิดเผยว่ารายได้ในปี 63 ลดลง 10% มาที่ 4 พันล้านบาทจากปี 62 ที่มีรายได้ 4.4 พันล้านบาท เป็นไปตามปริมาณขายน้ำที่ลดลงมาเหลือ 260 ล้านลบ.ม.จากปีก่อนที่มี 296 ล้านลบ.ม. เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การใช้น้ำอุปโภคบริโภคลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดหายไป และภาคอุตสาหกรรมลดการใช้กำลังการผลิต

ขณะที่กำไรในปี 63 คาดว่าจะต่ำกว่าปี 62 เพราะนอกจากรายได้จะลดลงแล้ว บริษัทยังมีต้นทุนที่สูงขึ้นจาการซื้อน้ำดิบจากแหล่งอื่น หลังจากเกิดภาวะภัยแล้ง

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังภาวะน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งกลับมาเต็มล้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการผลิตน้ำในปีหน้า ทำให้คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นกลับมาดีเท่ากับปี 62 โดยคาดว่ารายได้ปี 64 จะเติบโต 10% และมีปริมาณขายน้ำ 290 ล้านลบ.ม. จากการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา และภาคอุตสาหกรรมก็กลับมาทำการผลิต รวมทั้งบริษัทจะรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ คือ บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด ตั้งแต่ต้นปี และบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด ในช่วงกลางปี

สำหรับในปี 64 บริษัทวางงบลงทุนไว้ประมาณ 1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นใช้ลงทุนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก จำนวน 1,066 ล้านบาท และอีกประมาณ 550 ล้านบาทจะใช้ลงทุนในการเพิ่มประสิทธิกาพการส่งน้ำ

“เราเห็นโอกาสธุรกิจในพื้นที่ EEC ที่จะให้บริการน้ำคุณภาพต่างๆ ไม่ใช่ขายแค่น้ำดิบ แต่เราสามารถนำน้ำเสียมาบำบัดได้ เราจะให้บริการน้ำแบบครวบวงจร” นายจิรายุทธ กล่าว

ล่าสุดในวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) โดยนางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในฐานะผู้ให้เช่า ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ กับ EASTW ซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้เช่าที่ราชพัสุดจากกองทัพเรือในฐานะหน่วยงานร่วมเจ้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเช่าที่ราชพัสดุ 35 ไร่ เพื่อประกอบกิจการด้านงานระบบประปา ระบบน้ำเสีย ระบบการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ หรือน้ำรีไซเคิล ตลอดระยะเวลาสัญญา 29 ปี 6 เดือน ซึ่งเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร

ด้าน นายโชคชัย ปัญญายงค์ ที่ปรึกษาพิเศษโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กล่าวว่า โครงการนี้ EASTW จะออกแบบระบบผลิตน้ำประปาขนาดกำลังการผลิต 20,000 ลบ.ม./วัน หรือ 7 ล้านลบ.ม./ปี และจะบำบัดน้ำเสีย กำลังการผลิต 80%ของปริมาณน้ำดี โดยภาครัฐจะได้รับผลตอบแทนจาก EASTW เป็น 3 ส่วน ได้แก่

1. ค่าเช่าที่ดิน ชำระ 114,000 บาท/เดือน และปรับเพิ่มค่าเช่าอัตรา 9% ทุก 3 ปี

2.ค่าจัดประโยชน์ 1% ของมูลค่าโครงการ โดยจ่าย 3 งวด 10 ปีต่องวด คาดทั้งอายุสัญญาจะได้รับ 18-20 ล้านบาท

3. ส่วนแบ่งรายได้ให้ภาครัฐ 7% นับตั้งแต่วันเริ่มดำเนินการ รายได้ขึ้นกับปริมาณการใช้น้ำ โดย EASTW จะเก็บค่าน้ำกับบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ต่ำกว่านิคมอุตสาหกรรม

สำหรับโครงการในพื้นที่สนามบินอุ่ตะเภา บริษัทมีอัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) 12% และมีระยะเวลาคืนทุน 8 ปี  ทั้งนี้ EASTW มีแนวคิดในการบริหารจัดการน้ำโดยมีระบบท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล-ดอกกราย-มาบตาพุด-สัตหีบ สามารถส่งจ่ายน้ำดิบได้มากถึง 318 ล้าน ลบ.ม./ปี หรือประมาณ 0.87 ล้าน ลบ.ม./วัน และยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่บริษัทได้พัฒนาไว้ อีกทั้ง ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมการวางท่อส่งน้ำมาบตาพุด-สัตหีบ เส้นที่ 2 เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต เพิ่มศักยภาพการส่งจ่ายน้ำดิบในอีก 10 ปีถัดไป ได้อย่างเพียงพอยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ EASTW มีการออกแบบระบบผลิตน้ำประปา ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขนาดกำลังการผลิต 20,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งเป็นการผลิตน้ำประปาที่สะอาดมีคุณภาพระดับสากล ลดการใช้พื้นที่ติดตั้ง มีกำลังการผลิตได้ตามความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น ออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียให้เหมาะกับโครงการที่เป็นการพัฒนาพื้นที่ในระยะยาว รองรับน้ำเสีย 16,000 ลบ.ม./วัน เป็นการบริหารจัดการน้ำเสียที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบสนามบิน

โดยทาง EASTW  สกพอ. และกองทัพเรือ ให้ความสำคัญกับเรื่องของการบริหารจัดการน้ำเสียในพื้นที่สนามบินฯ เป็นอย่างมาก เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนและชุมชนโดยรอบสนามบิน ควบคู่กับการสร้างความยั่งยืนในระบบนิเวศ สร้างระบบน้ำรีไซเคิลกำลังการผลิต 5,000 ลบ.ม./วัน โดยนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ในระบบทำความเย็นกลาง เน้นย้ำให้เห็นถึงการเป็นผู้นำในด้านการบริหารจัดการน้ำครบวงจร และใส่ใจในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง ซึ่ง EASTW จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร สร้างความมั่นคงและเสถียรภาพด้านน้ำ รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของโครงการอีอีซี ในอนาคต

 

 

Back to top button