UKEM พุ่งแรง 9% นิวไฮรอบ 5 เดือน ลุ้นรายได้ไตรมาส 4/63 ฟื้น-ฟากราคาต่ำบุ๊ก

UKEM พุ่งแรง 9% นิวไฮรอบ 5 เดือน ลุ้นรายได้ไตรมาส 4/63 ฟื้น-ฟากราคาต่ำบุ๊ก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน)  หรือ UKEM ณ เวลา 15.09 น. อยู่ที่ระดับ 0.70 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 9.38% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 12.77 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรงในรอบ 5 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 0.70 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ค.63 ขณะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 0.81 บาท

โดยก่อนหน้านี้นายพีรพล สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ UKEM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการสินค้าเคมีภัณฑ์เริ่มฟื้นตัว เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 ที่แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวแต่ก็ยังไม่กลับมาเต็มที่ ขณะที่ภาพรวมรายได้และกำไรปี 2563 คาดว่าจะปรับลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่รายได้อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท

โดยบริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 2564 จะเริ่มกลับมา โดยเฉพาะภาคการอุปโภคบริโภคที่ตัวเลขจะกลับมาเติบโตไม่น้อยกว่าปี 2562 อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีความกังวลลูกค้ากลุ่มยานยนต์ที่ยังไม่เห็นการกลับมาอย่างชัดเจนมากนัก

“ไตรมาส 3/2563 น่าจะดีน้อยที่สุดของปีนี้ เนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 บริษัทได้รับอานิสงส์การขายแอลกอฮอล์ ขณะที่ไตรมาส 3 ปีนี้ดีมานด์ยังไม่กลับมาเต็มที่ แต่ภาพรวมบริษัทยังมีกำไร แต่คาดว่าไตรมาส 4/2563 ตัวเลขจะใกล้เคียงกับปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 3/2562 ที่บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 732.18 ล้านบาท และมีกำไร 20.11 ล้านบาท อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันคาดว่าผลประกอบการปีหน้าจะกลับมาเติบโต เมื่อเทียบกับปี 2563” นายพีรพล กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจลีสซิ่ง โดยร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (UKEM ถือหุ้นสัดส่วน 60%) เพื่อดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อผู้ประกอบการรถยนต์ทุกประเภท ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 5 ล้านบาท ซึ่งพันธมิตรดำเนินธุรกิจมากกว่า 1 ปี จึงมองว่ามีความเสี่ยงต่ำ

ส่วนอีกธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจอาหาร ได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ชำนาญการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 75%) ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 3.5 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์มะพร้าว เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากขึ้น ขณะที่พันธมิตรของบริษัทก็มีจุดแข็งด้านซัพพลายเชนวัตถุดิบ จึงทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนี้ โดยรายละเอียดและแผนการดำเนินงานของ 2 ธุรกิจนี้บริษัทจะแจ้งต่อผู้ถือหุ้นต่อไป อย่างไรก็ตามการลงทุนในธุรกิจใหม่ในครั้งนี้เป็นการมองการทำงานที่แตกต่าง จากปัจจุบันรายได้จะมาจากสินค้าเคมีภัณฑ์เป็นหลัก

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานใน 2-5 ปีข้างหน้า รายได้หลักยังมาจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ รวมทั้งมองการขยายการเติบโตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการลงทุนในบริษัทใหม่ ๆ เพื่อเติบโตไปกับพันธมิตรด้วย

Back to top button