EPG มั่นใจรายได้เข้าเป้า 9 พันลบ. รับอานิสงส์ยานยนต์-แพคเกจจิ้งฟื้น!

EPG มั่นใจรายได้เข้าเป้า 9 พันลบ. รับอานิสงส์ยานยนต์-แพคเกจจิ้งฟื้น!


นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 63/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) บริษัทตั้งเป้าปีนี้รายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10,399.75 ล้านบาท โดยบริษัทมองว่าธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังของปีบัญชี 63/64 (ต.ค.63-มี.ค.64) ยอดขายจะฟื้นตัวดีใน 2 ธุรกิจได้แก่ กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก

โดยในกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas กลุ่มลูกค้า OEM (Original Equipment Manufacturer) บริษัทตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไม่ต่ำกว่า 15%  เนื่องจากมียอดสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากกลับมาผลิตยานยนต์ตามปกติ

ขณะที่ธุรกิจในประเทศออสเตรเลียมียอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์เพิ่มขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ จึงมีความต้องการใช้งานอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความปลอดภัยในการขับขี่  โดยคาดว่ายอดขายครึ่งปีหลังในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะเพิ่มขึ้นมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  เนื่องจากคนเริ่มจับจ่าย และงานมอเตอร์โชว์ปลายปีหนุน โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายทั้งปีธุรกิจรถยนต์ไม่ต่ำกว่า 15%

ขณะเดียวกันธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ฟื้นตัวโดดเด่น โดยตั้งเป้าหมายครึ่งปีหลังธุรกิจจะเติบโต 28-30% เนื่องจากผู้บริโภคนิยมสั่งอาหารเดลิเวอร์รี่ หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทแก้วน้า และกล่องใส่อาหารมียอดคำสั่งซื้อต่อเนื่อง และจากการสนับสนุนโครงการของภาครัฐที่กระตุ้นการใช้จ่าย และการท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น โครงการคนละครึ่ง และโครงการเที่ยวด้วยกัน เป็นต้น

ส่วนทิศทางธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มุ่งเน้นการตลาดในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ โดยในสหรัฐอเมริกา ฉนวน Aeroflex เป็นสินค้าจำเป็น (Essential Product) ยังชะลอตัว คาดจะฟื้นตัวประมานกลางปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจ Aeroflex ซึ่งการสร้างโรงงานในอเมริกาจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า และหาก “ไบเดน” อัดฉัดเงินเข้าระบบธุรกิจคาดจะเร่งตัวขึ้น

สำหรับสัดส่วนรายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก แบ่งเป็น ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 50% ของรายได้รวม และธุรกิจฉนวนยางกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX  มีสัดส่วนอยู่ที่ 28% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้แบรนด์ EPP มีสัดส่วนอยู่ที่ 28% ของรายได้รวม

จากแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าช่วงครึ่งแรก คาดบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา บริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด 30 ก.ย. 63 ในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 ธ.ค.63 

Back to top button