VPO ทะยานไม่หยุด! บวกอีก 21% นิวไฮรอบ 16 เดือน ลุ้นงบฯ Q4 โตเด่น รับราคาปาล์มพุ่ง

VPO ทะยานไม่หยุด! บวกอีก 21% นิวไฮรอบ 16 เดือน ลุ้นงบฯ Q4 โตเด่น รับราคาปาล์มพุ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO ณ เวลา 15.11 น. อยู่ที่ระดับ 0.63 บาท บวก 0.11 บาท หรือ 21.15%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 16.13 ล้านบาท ราคาหุ้นพุ่งแรงในรอบ 16 เดือน  โดยเทียบตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 0.64 บาท

ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส  4/63 จะปรับตัวสูงขึ้นจากราคาปาล์มในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุราคาปาล์มน้ำมันปรับเพิ่มแตะ กิโลกรัมละ 7 บาท หลังความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะรัฐ หนุนใช้ไบโอดีเซล ดันส่งออกส่วนเกิน คาดสต็อกจะลดลงในอัตราที่เหมาะสม 2.8-3.2 แสนตัน ทำราคาพุ่งแรงถึงไตรมาสแรกปี 64

ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิลดลงเหลือเพียง 4.86 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานไตรมาสดังกล่าวขาดทุนลดลงเนื่องจาก บริษัทมีรายได้รวม 289.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน 57.95% เนื่องจากปริมาณขายน้ำมันปาล์มดิบ และราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 52.39% และ 13.11 ตามลำดับ

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ปัจจุบันแนวโน้มรายได้เกษตรกรยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากโครงการประกันราคาสินค้าเกษตรของภาครัฐแล้ว พบว่าดัชนีราคาสินค้าเกษตรโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย. 63 ที่ผ่านมา และล่าสุดได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 145.03 จุด ทำจุดสูงสุดในรอบ 44 เดือน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นแทบทุกประเภทสินค้า นำโดย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ปศุสัตว์ รวมถึงกลุ่มผลไม้ มีเพียงราคาข้าวที่ราคาอ่อนตัวลงเล็กน้อย

ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ประเทศไทยที่ราคาปศุสัตว์ยังอยู่ในระดับที่ดี แต่ในหลายประเทศมีราคาปศุสัตว์อยู่ในระดับที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน จากปัญหาโรคระบาดเช่น ASF ในหมู ในช่วงก่อนหน้า

ในขณะที่ Demand เริ่มกลับมาฟื้นตัวตามการ Reopen อีกครั้ง ส่งผลให้ภาวะการเลี้ยงสัตว์กลับมาสูงขึ้น นั่นหมายถึงทำให้ความต้องการใช้อาหารสัตว์สูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะราคาถั่วเหลือง ที่มีปัจจัยหนุนทั้งฝั่ง Demand (ภาวะการเลี้ยงสัตว์สูงขึ้นทั่วโลก) และ Supply (ปริมาณผลผลิตในสหรัฐ และอเมริกาใต้ตึงตัวจากสภาพอากาศ La Nina) ทำให้ภาวะถั่วเหลืองโลกตึงตัวมากขึ้น

ล่าสุดราคาปรับขึ้นทำ New High ในรอบ 4 ปีอยู่ที่ระดับ US$11.5  US$12 ต่อบุชเชล และน่าจะทรงตัวถึงปรับขึ้นต่อในช่วง ครึ่งแรกปี 2564 เป็นอย่างน้อย

Back to top button