KUN ทะยานไม่หยุด! 7 วันพุ่ง 36% รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้นรายได้ปี 63 โตเข้าเป้า 800 ล้าน

KUN ทะยานไม่หยุด! 7 วันพุ่ง 36% รับแผนธุรกิจเด่น-ลุ้นรายได้ปี 63 โตเข้าเป้า 800 ล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN ณ เวลา 11.24 น. อยู่ที่ระดับ 1.29 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 4.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 6.75 ล้านบาท  ราคาหุ้นวิ่งแรง 7 วันติดโดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 0.95 บาท เมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 จนถึงล่าสุดหุ้นปรับตัวขึ้นแล้ว 36%

โดยก่อนหน้านี้นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยว่า ในปี 2563 ช่วงที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ภายใต้การบริหารงานบนความท้าทายสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ตลอดช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของรายได้รวมปี 2563 น่าจะแตะระดับ 800 ล้านบาท จากปี 2562 ที่มีรายได้รวม 652.67 ล้านบาท ซึ่งช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมแล้ว 497.74 ล้านบาท

ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/2563 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนุนทั้งการโอนกรรมสิทธิ์และการขาย ทั้งนี้ การทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทมียอดขาย (Presale) ในช่วงไตรมาส 4/2563 รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

“เฉพาะเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว บริษัทมียอดขายเข้ามากว่า 130 ล้านบาท ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีความสามารถทำยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย 2563 ได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทมีโครงการบ้านพร้อมโอน (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 333  ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 ทั้งหมด” นางประวีรัตน์ กล่าว

นางประวีรัตน์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการแข่งขันในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แนวราบในปี 2564 จะมีโอกาสการแข่งขันทางธุรกิจที่มีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากความต้องการอสังหาริมทรัพย์แนวราบยังคงมีสูง และเป็นลูกค้าในกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) เป็นหลัก ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็ก ยังให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้อยู่ ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเน้นการใช้กลยุทธ์ศึกษากลยุทธ์คู่แข่งรายใหญ่ ภายใต้กลยุทธ์ “เกาะปีกอินทรี” โดยจะนำพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงกลยุทธ์ของคู่แข่งมาประเมิน เพื่อปรับให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านสภาพคล่องเงินสด ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 100 ล้านบาท รวมถึงแผนการใช้เครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ เพื่อจะสามารถรองรับกับแผนการพัฒนาโครงการในอนาคตในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมสร้างเกราะป้องกันเพื่อ “รักษาแชมป์ในโซนของตัวเอง” และป้องกันไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเจาะพื้นที่โซนยุทธศาสตร์หลัก เขตพื้นที่บางบัวทอง และพื้นที่เขตปริมณฑลอื่น ๆ โดยจะเน้นกลยุทธ์ด้านการบริการลูกค้า ด้านราคาขาย รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทิศที่ 3 ล่าสุดมีความชัดเจนในการลงทุนมากขึ้น โดยจะลงทุนในทิศใต้ของกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการต่าง ๆ และจะต้องเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญในช่วงเดือนเมษายน 2564 เพื่อขออนุมัติต่อไป เบื้องต้นคาดว่าสามารถสรุปรายละเอียดได้ภายในช่วงไตรมาส 2/2564 แน่นอน

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทให้ครบ 4 ทิศรอบกรุงเทพมหานคร  คือ ทิศเหนือ, ทิศใต้, ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จะส่งผลให้ KUN ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขายในเขตปริมณฑล” ในอนาคต

Back to top button