แอฟริกาใต้จ่อระงับฉีดวัคซีน “แอสตราเซเนกา” หลังพบลดประสิทธิภาพป้องกัน “โควิดกลายพันธุ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางการแอฟริกาใต้มีแผนที่จะระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาเป็นเวลาชั่วคราว หลังการทดสอบเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น ให้การป้องกันไม่มากนักในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีอาการไม่รุนแรงและอาการปานกลาง โดยรัฐบาลจะรอคำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์ต่อไปว่าควรดำเนินการอย่างไร

ก่อนหน้านี้ ทางการแอฟริกาใต้ตั้งใจที่จะฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาให้กับบุคลากรทางการแพทย์ แต่เมื่อผลการทดลองเป็นเช่นนี้แล้ว แอฟริกาใต้จะฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแทน โดยโครงการฉีดวัคซีนนั้นจะเริ่มดำเนินการตามแผนเดิม ซึ่งก็คือสัปดาห์นี้ ครอบคลุมระยะเวลา 4 สัปดาห์

ส่วนวัคซีนของแอสตราเซเนกานั้นจะเก็บไว้ก่อน จนกว่ารัฐบาลจะได้คำแนะนำจากนักวิทยาศาสตร์ว่าจะควรทำอย่างไรต่อไป

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า การทดสอบเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น ให้การป้องกันที่จำกัดในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีอาการไม่รุนแรงและอาการปานกลาง อย่างไรก็ตาม แอสตราเซเนกาแสดงความเชื่อมั่นว่าวัคซีนของบริษัทสามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยครั้งแรกโดยหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ก่อนจะได้รับการยืนยันจากทางแอสตราเซเนกา โดยข้อมูลดังกล่าวได้จากการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วย 2,000 คน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด

โฆษกของแอสตราเซเนกากล่าวว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทจะสามารถป้องกันผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่มีอาการรุนแรงและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลได้หรือไม่ เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการศึกษาส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่หรือหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี

อย่างไรก็ตาม แอสตราเซเนกาแสดงความเชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทจะสามารถแสดงประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ เนื่องจากใช้การสร้างแอนติบอดีลบล้างคล้ายกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทอื่น