ความเชื่อมั่นบนซากหักพัง

โชคดีของประเทศไทย ประยุทธ์งดฉีดวัคซีนกะทันหัน หลังจากหลายประเทศในยุโรป ชะลอฉีด AstraZeneca เพราะสงสัยว่าทำให้หลอดเลือดอุดตัน ไม่งั้น “ช็อกตายจะทำยังไง”


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

โชคดีของประเทศไทย ประยุทธ์งดฉีดวัคซีนกะทันหัน หลังจากหลายประเทศในยุโรป ชะลอฉีด AstraZeneca เพราะสงสัยว่าทำให้หลอดเลือดอุดตัน ไม่งั้น “ช็อกตายจะทำยังไง”

หุ้นวันศุกร์ตกไป 7 จุด แม้ต่อมา WHO และสหภาพยุโรป ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน สธ.เตรียมเดินหน้าฉีดอีกครั้ง แต่วันเสาร์วันอาทิตย์ ก็พบคลัสเตอร์ใหม่ตลาดบางแค วันละ 80-90 ราย

สธ.เอาอยู่ไหม เชื่อได้ว่าเอาอยู่ แต่เชื่อได้ว่าเดี๋ยวก็มีอีก โควิด-19 และวัคซีนไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ฉะนั้นที่ สธ.ยืนกรานว่าจะฉีดวัคซีน 65 ล้านโดสภายในสิ้นปี เชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่ทำได้ แต่ก็จะมีอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมอยู่ดี

การฝากความหวังไว้กับวัคซีน Astra ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ 63 ล้านโดส เพียงรายเดียว จึงมีความเสี่ยงจะไม่เป็นไปตามแผนที่ล็อกไว้ แต่รัฐบาลก็ใช้วิธีตีปี๊บขายข่าวดี มีวัคซีน 3 แสนโดสจัดอีเวนต์ราว 30 ล้านโดส รีบกำหนดเปิดประเทศขายฝันให้ประชาชนกล้าใช้จ่าย

ระบบสาธารณสุขไทยมีประสิทธิภาพ เป็นที่เชื่อมั่น แต่ถูกรัฐบาลเอาไปใช้ตีตรารับประกันทางเศรษฐกิจ รับใช้ Propaganda ทางการเมือง ซึ่งย้อนมาทำลายความเชื่อมั่นต่อระบอบสาธารณสุขเอง อย่างที่เห็น หมอ ๆ ทั้งหลายถูกโลกออนไลน์รุมกระหน่ำ ไม่เชื่อคำชี้แจง

ถ้าถึงปลายปีฉีดวัคซีนตามคำมั่นไม่ได้ กระทรวงหมออาจต้องห้อยท้ายด้วยสระอา

ระบบต่าง ๆ ในประเทศกำลังพังทลายเพื่อให้อำนาจอยู่ได้ การเมืองในสภา นักการเมืองระบบอุปถัมภ์กลายเป็นเสาค้ำรัฐประหารสืบทอดอำนาจ พวกที่กวาดต้อนมาจากอดีตไทยรักไทยพลังประชาชนเพื่อไทย ถีบพวกบอยคอตขัดขวางเลือกตั้งขึ้นมาเป็นใหญ่ สมน้ำหน้า ไหนว่าให้คนดีปกครองบ้านเมือง

การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำท่าจะคว่ำในวาระสาม ศาลรัฐธรรมนูญ “ถามอย่างตอบอย่าง” รัฐสภากำลังแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้ง สสร.มายกร่างใหม่ ศาลกลับตอบเป็นทฤษฎีสวยงาม ถ้าจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ลงประชามติก่อน

การแก้ไขกับการจัดทำใหม่ เป็นคนละเรื่องกัน ศาลไม่มีอำนาจห้ามการแก้ไข แต่ไปพูดถึงการจัดทำใหม่ 250 ส.ว.ที่จ้องคว่ำอยู่แล้วก็ได้โอกาส วิษณุ เครืองาม ก็ชี้นำว่างดออกเสียงดีกว่า

อันที่จริงการแก้มาตรา 256 ซึ่งต้องลงประชามติ แล้วไปเลือก สสร. กว่าจะเสร็จก็ซื้อเวลาให้ประยุทธ์ และ 250 ส.ว.จนถึงเลือกตั้งใหม่ ก็ยังงงเหมือนกันว่าคว่ำทำไม

แต่ผู้มีอำนาจไม่แยแสใคร เหมือนอยากท้าทายว่าพรรคฝ่ายค้านจะมีน้ำยาปลุกม็อบไหม ประชาชนจะมีพลังต่อต้านไหม

เหมือนการคุมขังแกนนำม็อบราษฎร ในสถานการณ์วันนี้ ปล่อยตัวพวกเขาก็เคลื่อนไหวอะไรไม่ได้มาก แต่พอไม่ปล่อย ก็บังคับให้ต้องม็อบ “ปล่อยเพื่อนเรา” เพื่อแสดงตัวว่ายังสู้อยู่

อำนาจต้องการสร้างความกลัว บังคับให้ยอมแพ้ แต่เอาชนะความคิดไม่ได้ คนรุ่นใหม่ไม่ได้เปลี่ยนความคิด แค่อยู่ในภาวะทดท้อว่าไม่สามารถเอาชนะได้ อำนาจรัฐก็ยังชวนราวีต่อไป

การใช้อำนาจจัดการม็อบ ทำลายความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมอย่างรุนแรง เช่นการตั้งข้อหาอุกฉกรรจ์กับแกนนำ WeVo อั้งยี่ซ่องโจรทั้งที่ไปกินข้าวในห้าง แล้วไม่ได้ประกัน

15 ปีของความขัดแย้งที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ รัฐไทยพยายามจะบอกโลกว่า การใช้กฎหมายอำมหิตไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม จำกัดเฉพาะนักการเมืองที่ถูกรัฐประหาร กับพวกต่อต้านอำนาจเท่านั้น นักลงทุนต่างชาติ นักท่องเที่ยว คนทั่วไปที่ใช้ชีวิตปกติ จะได้รับความยุติธรรมเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลทุกประการ

แต่สังคมโลกก็เชื่อถือน้อยลงทุกที ยิ่งมา ยิ่งใช้อำนาจตามอารมณ์ จนต่างชาติไม่กล้าลงทุนระยะยาว ล่อใจด้วย BOI ลดภาษี ก็ไร้ผล

ศักยภาพก็ลดลง เปิดประเทศเมื่อไหร่ คนรุ่นใหม่ที่เก่ง ๆ ก็คงแห่ไปทำงานต่างประเทศตามที่ถูกไล่

Back to top button