พาราสาวะถี

คำถามที่ชวนให้คิดกันต่อประเด็นวัคซีนทางเลือกที่ไม่ใช่ม้าตัวเดียวอย่างแอสตราเซเนกา หรือตัวเสริมที่เลี่ยงไม่ได้อย่างซิโนแวคนั้น หาก โทนี่ วูดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร ไม่เปิดประเด็นผ่านคลับเฮาส์ว่า ยินดีที่จะเป็นตัวแทนเจรจากับ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเพื่อขอช่วยจัดสรรวัคซีนสปุตนิคสัญชาติหมีขาวให้กับทางการเมือง วันนี้เราจะได้เห็นการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจชี้แจง กล่าวอ้างว่าได้หารือกับผู้นำรัสเซียมาต่อเนื่องหรือไม่


อรชุน

คำถามที่ชวนให้คิดกันต่อประเด็นวัคซีนทางเลือกที่ไม่ใช่ม้าตัวเดียวอย่างแอสตราเซเนกา หรือตัวเสริมที่เลี่ยงไม่ได้อย่างซิโนแวคนั้น หาก โทนี่ วูดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร ไม่เปิดประเด็นผ่านคลับเฮาส์ว่า ยินดีที่จะเป็นตัวแทนเจรจากับ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเพื่อขอช่วยจัดสรรวัคซีนสปุตนิคสัญชาติหมีขาวให้กับทางการเมือง วันนี้เราจะได้เห็นการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจชี้แจง กล่าวอ้างว่าได้หารือกับผู้นำรัสเซียมาต่อเนื่องหรือไม่

ทำไมต้องอมพะนำ ไม่ยอมบอกว่าได้เจรจาหรือยกหูหาผู้นำประเทศที่มีการผลิตวัคซีนโควิด-19 ประเทศใดบ้าง จะอ้างว่าทุกอย่างเป็นตามแผนการที่ได้ตระเตรียมกันไว้คือให้มีวัคซีนหลักตัวเดียว ส่วนที่เหลือค่อยไปวัดดวงหรือเที่ยวเร่ซื้อเอาหากสถานการณ์มันวิกฤตอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่วิสัยของคนที่เป็นผู้นำประเทศ ทุกอย่างมันต้องผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์และเตรียมการ พร้อมใช้เมื่อเข้าสู่ภาวะคับขัน ไม่ใช่แค่ออกมาบอกว่าเจรจาอยู่ รอก่อนแล้วก็จบกัน

คำถามที่ตามมาและจะหลีกเลี่ยงการตอบไม่ได้นั่นก็คือ คุยกันฝ่ายโน้นยินดีที่จะช่วยคือ ช่วยไปเจรจาต่อโดยที่ยังไม่รับปากว่าไทยจะได้วัคซีนใช่หรือไม่ หรือตอบตกลงว่าจะจัดสรรปันส่วนให้แน่นอน แล้วจะส่งให้ไทยได้เมื่อไหร่ เพราะหากต้องรออย่างเร็วสุดเช่นเดือนมิถุนายนไปแล้วนั้น ถือว่าเป็นการทำงานที่ไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤตของประเทศ ดังนั้น สิ่งที่พยายามอธิบายมันจึงเป็นเพียงการแก้ตัว หนีข้อครหาเรื่องการไร้วิสัยทัศน์ของผู้นำเท่านั้นเอง

ประเด็นวัคซีนแทบจะไม่ต้องพูดถึงว่าช้าหรือเร็ว ยังมีกรณีของการที่ฉีดไปแล้วเกิดผลข้างเคียงจำนวนมาก เหมือนอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นที่จังหวัดลำปาง ตรงนี้ก็ต้องชี้แจงกันให้กระจ่างว่าเป็นผลจากวัคซีนหรือปัจจัยอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐจะโดยศบค. หรือกระทรวงสาธารณสุขต้องพูดความจริง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดำเนินไปในเวลานี้ ไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันและควบคุมโรคเท่านั้น หากแต่ยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนต่อการตัดสินใจที่จะให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีนด้วย

มาถึงนาทีนี้ จากที่ประชาชนเชื่อมั่นต่อกระบวนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเต็มที่ก่อนหน้านั้น พอเกิดเหตุการณ์เตียงรองรับคนไข้ไม่เพียงพอ ทั้งที่ก่อนหน้าย้ำกันมาโดยตลอดว่าสามารถรับมือได้มันก็เหมือนกับเป็นการหลอกหลวงประชาชนไปโดยปริยาย มิเช่นนั้น คงไม่มีการสั่งการให้เพิ่มคู่สายเพื่อที่จะได้ให้คนที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 ได้โทรหาเพื่อจัดหาเตียงในการรักษาพยาบาล ประเด็นนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่าหรือหมอในกระทรวงสาธารณสุขกลายเป็นหมอการเมืองไปหมดแล้ว

เรื่องโรคระบาดนั้น จริงอยู่การบัญชาการและควบคุมสถานการณ์คือ ผู้นำประเทศและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องดำเนินไปควบคู่กับการทำความเข้าใจและให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงกับประชาชน ดังนั้น กรณีที่มีผู้มีความรู้ กล้าที่จะลุกขึ้นมาอธิบายต่อความเป็นจริงที่กำลังเผชิญ ก็ควรที่จะเปิดโอกาสหรือเชื้อเชิญให้มาทำความเข้าใจร่วมกันว่า สิ่งไหนที่ประชาชนควรรู้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยร่วมกันของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ว่ากลัวจะเกิดแรงกระเพื่อมสะเทือนถึงเสถียรภาพของรัฐบาล

เหมือนกรณีหมอดื้อที่ถูกโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าจะโผล่มาเมื่อมีภารกิจต้องตอบโต้ในมิติที่มีผลทางการเมือง เมื่อเป็นเช่นนั้น มันจึงทำให้คนอดจะสงสัยไม่ได้ เพราะหลายเรื่องมันผิดปกติ แต่ก็ไม่มีใครอยากมองไปในทางที่เลวร้ายในลักษณะที่ว่าท่ามกลางการเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายร่วมกันของคนไทยนั้น ยังมีคนอยู่พวกหนึ่งที่แสวงหาประโยชน์บนความทุกข์ยากเดือดร้อนนั้น นี่คือความสามานย์ ซึ่งคนที่เป็นผู้นำที่เคยกล่าวหานักการเมืองชั่วนักการเมืองเลวไม่พึงทำตามเป็นอันขาด

ความจริงอีกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเล่นการเมืองภายในพรรคสืบทอดอำนาจรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้สถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงนั้น คือการอาศัยสถานการณ์มาดิสเครดิตพวกเดียวกัน ตอนนี้ที่เห็นได้ชัดคือ สมศักดิ์ เทพสุทิน สองวันติดกับการออกมาแก้ข่าวว่าเป็นรัฐมนตรีอีกรายที่ติดโควิด-19 หากไม่มีการเกมการเมืองภายใน การอธิบายเพียงแค่ครั้งเดียวทุกอย่างย่อมจะเงียบไปโดยปริยาย แต่กลายเป็นว่ายังมีข่าวที่พุ่งเป้าโจมตีไปยังเจ้าตัวต่อเนื่อง

การเคลื่อนไหวทุกเม็ดทุกดอกหวังผลไปถึงความเปลี่ยนแปลงภายในพรรคสืบทอดอำนาจ และอาจมองไปไกลถึงเก้าอี้รัฐมนตรีเสียด้วยซ้ำ อยู่ที่ว่ารัฐมนตรีรายที่ถูกกระทำนั้นจะมีภูมิคุ้มกันดีขนาดไหน ไม่ต่างกันกับ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่มีความพยายามของพวกในพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าไปตรวจสอบไทม์ไลน์การใช้ชีวิตก่อนติดโควิด-19 โดยหวังว่าถ้ามีหลักฐานถึงขั้นที่ว่ารัฐมนตรีไปเที่ยวสถานบันเทิงหรูจริง ย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาลได้

ท่วงทำนองที่แปลกแปร่งภายในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคณะกรรมการพิจารณาวัคซีนทางเลือกที่ไร้รัฐมนตรีสาธารณสุขร่วมเป็นกรรมการด้วย รวมไปถึงการเซ็นแบ่งงานรัฐมนตรีคุมจังหวัดต่าง ๆ ชนิดไม่เกรงใจเจ้าของพื้นที่เดิม เป็นภาพสะท้อนของความเหิมเกริมในการกระชับอำนาจของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ อยู่ที่ว่าหัวขบวนของสองพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญอย่างภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์จะมองไปในทิศทางไหน แต่คงไม่ปฏิเสธว่า นี่คือการรุกคืบทั้งการรวบอำนาจและหวังกินรวบพื้นที่ฐานเสียงของเพื่อนร่วมรัฐบาล

สุดสัปดาห์นี้กลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย จัดปราศรัยออนไลน์ไล่ประยุทธ์ยกสอง วันเสาร์ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล จะพูดในแง่มุมเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจของประเทศ การเงินการคลัง หรือกรณีทุนผูกขาด วันอาทิตย์ ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่ติดตามสถานการณ์โควิดมาตลอด รับคำเชิญมาพูดหัวข้อรัฐบาลรับมือบกพร่องผิดพลาดกันอย่างไร คนกันเองแฉกันเอง ถ้าไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู ก็เชื่อได้ว่าน่าจะมีประเด็นเด็ดทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจโมโหและลิ่วล้อสอพลอพากันออกมาตอบโต้กันหน้าสลอนแน่นอน

Back to top button