ดูกันชัดๆ 10 หุ้นยอดแย่!ปี 58 ถังแตกขาดทุนยับ

เปิด 10 หุ้นผลประกอบการปี 58 ยอดแย่ อาการร่อแร่ขาดทุนเพิ่ม


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งตลาด SET และ mai ปี 2558 ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างหนัก โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากหุ้นที่ผลการดำเนินงานในปี 2558 ขาดทุนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 30-2,000% โดยมีหุ้นที่น่าสนใจ เรียงลำดับได้ดังนี้

ตารางผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปี 2558 ที่ขาดทุนเพิ่มขึ้น

 

 ***อนึ่งข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลของบริษัทที่มีผลประกอบการปี 58 ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปี 57***

 

อันดับ 1บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 486.57 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.158 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 3,817.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 12.42 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.004 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายทางการตลาด และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ Content ในธุรกิจทีวีดิจิตอลที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับในปี 58 มีการรับรู้รายจ่ายและค่าตัดจากสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อย นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงการบันทึกรายการต้นทุนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ระบบดิจิตอลตามสภาวิชาชีพ

 

อันดับที่ 2บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 2.43 พันล้านบาท หรือขาดทุน 1.82 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 2924% จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 80.22 ล้านบาท หรือขาดทุน 0.08 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปี 58 เป็นหนึ่งในปีที่แย่ที่สุดของตลาดเรือเทกอง ค่าเฉลี่ยดัชนี BDI สำหรับทั้งปีอยู่ที่ 719 จุด ซึ่งสูงกว่าตัวเลขดัชนีที่ต่ำที่สุดในอดีตที่ผ่านมาเพียง 4 จุดส่งผลให้มีปริมาณการสั่งต่อเรือใหม่เกือบน้อยที่สุดในประวัติการณ์ การสั่งต่อเรือเดิมก็ถูกทำให้ล่าช้าหรือเลื่อนเวลาออกรับเรือออกไปอันเนื่องมาจากสถานะทางการเงินไม่ว่าของผู้ซื้อหรืออู่ต่อเรือ

 

อันดับที่ 3บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 96.24 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.0297 บาทต่อหุ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 17.74 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.0076 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจาก รายได้จากการขายลดลงจำนวน 48.93 ล้านบาท

 

อันดับที่ 4 บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 ขาดทุนสุทธิ  1.79 พันล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.631 บาทต่อหุ้น หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 368% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 381.06 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.185 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม “ดีน แอนด์ เดลูก้า” รวมถึงมีค่าใช้จ่ายต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงินระยะสั้น รวมถึงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดของ ดีน แอนด์ เดลูก้าเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา และเงินกู้ค่าซื้อที่ดินโครงการนิมิต หลังสวน

 

อันดับที่ 5 บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 ขาดทุนสุทธิ 40.61 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 0.06248 บาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 280.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 10.67 ล้านบาท หรือขาดทุนต่อหุ้น 0.01642 บาท

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักจากสภาวะกาลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งทาให้บริษัทต้องเพิ่มต้นทุนด้านการส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น โดยสาเหตุหลักมาจากค่าเช่าสื่อโฆษณาทางตรงที่เพิ่มขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงระบบการออกอากาศของโทรทัศน์จาก TV Analog เป็น TV Digital

 

อันดับที่ 6 บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 54.53 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.13 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 203% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 17.97 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริการเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการขายเพิ่มขึ้น

 

อันดับที่ 7 บริษัท ฮอท พอท (มหาชน) หรือ HOTPOT รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 94.99 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.23 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 74.44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 54.46 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.13 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายที่ลดลง แม้ผลขาดทุนจากการปิดสาขาจะลดลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และต้นทุนทางการเงินที่ลดลง แต่ยังไม่สามารถชดเชยต่อการลดลงของรายได้จากการขาย เนื่องจากค่าใช้จ่ายบางส่วนเป็นค่าใช้จ่ายที่คงที่ ไม่ผันแปรตามยอดขาย รวมทั้งสัดส่วนของต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น จากการทำโปรโมชั่นส่วนลด

 

อันดับที่ 8บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 278.13 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.2515 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 169.15 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.1529 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น  เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายห้องชุดลดลง เนื่องจากลูกค้าชะลอการรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด3

 

อันดับที่ 9บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 ขาดทุนสุทธิ 726.10 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 1.16 บาทต่อหุ้น หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 54% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 471.66 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.75 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น  สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากการแข่งขันด้านการตลาดที่รุนแรงกว่าที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ จำนวนเที่ยวบินต่ำกว่าที่วางแผนไว้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอัตราการหมุนเวียนเข้าออกของนักบินเป็นไปอย่างมีนัยสำคัญและมากกว่าอัตราปกติที่บริษัทคาดการณ์ไว้

 

อันดับที่ 10บริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRECHA รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 18.14 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.05 บาทต่อหุ้น ขาดทุนเพิ่มขึ้น 39.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 13.01 ล้านบาท หรือขาดทุนสุทธิ 0.04 บาทต่อหุ้น

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเพิ่มขึ้น   เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนขายเพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ประกาศงดจ่ายปันผลงวดดำเนินงาน วันที่ 1 ม.ค.58 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.58

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button