WHART จ่อเพิ่มทุน 5.55 พันลบ. ดัน 3 โครงการเข้ากองทรัสต์ไตรมาส 4/64

WHART ปลื้ม! ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุนครั้งที่ 6 ลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 7 ใน 3 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 5,549.72 ล้านบาท ชูศักยภาพทรัพย์สินบนทำเลทอง จุดยุทธศาสตร์การขนส่งสินค้าในประเทศไทย หนุนมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะระดับ 48,000 ล้านบาท 


นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งที่ 6 โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์ใหม่ จำนวนไม่เกิน 400.60 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วงของอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5,549.72 ล้านบาท

สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART เข้าไปลงทุนในครั้งนี้ มีความโดดเด่นด้านทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเชื่อมต่อด้านการขนส่งสินค้าในประเทศไทย เป็นโครงการคลังสินค้าและโรงงานประเภท Built-to-Suit และมีสัญญาเช่าเฉลี่ยจากผู้เช่าชั้นนำระยะยาว จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย

  1. โครงการ WHA Mega Logistics Center (วังน้อย 62) ตั้งอยู่ที่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

2.โครงการ WHA Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม. 23 โปรเจค 3) ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

  1. โครงการ WHA E-Commerce Park ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยมีเนื้อที่ดินรวมทั้ง 3 โครงการ จำนวน 195 ไร่ 3 งาน 46.20 ตารางวา มีพื้นที่เช่าอาคารทั้ง 3 โครงการ จำนวน 184,329.00 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าส่วนหลังคาของอาคารทั้ง 3 โครงการ จำนวน 23,205.00 ตารางเมตร

การลงทุนเพิ่มในครั้งนี้ จะส่งผลให้ WHART มีการลงทุนในกรรมสิทธิ์ สิทธิการเช่าและสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้นเป็น 34 โครงการ จากทรัพย์สิน ณ ปัจจุบันจำนวน 31 โครงการ

ส่งผลให้มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHART จากเดิมอยู่ที่ระดับ 42,340.24 ล้านบาท และภายหลังการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHART ขยับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 48,000 ล้านบาท ส่งผลให้กองทรัสต์ WHART สามารถรักษาความเป็นผู้นำของกองทรัสต์ ประเภทศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้าและโรงงาน และยังช่วยสร้างความมั่นคงในการจ่ายประโยชน์ตอบแทน (Distribution per Unit) ให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในระยะยาว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเสนอขายหน่วยทรัสต์ดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 4/2564

“การเพิ่มทุนครั้งนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากสัญญาเช่าส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาว อีกทั้ง profile ของผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ เป็นผู้เช่าที่มีชื่อเสียง อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เติบโต และเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมของผู้เช่าปัจจุบันของกองทรัสต์แล้วนั้น จะทำให้กองทรัสต์มีผู้เช่าที่มาจากหลากหลายทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งได้เป็นอย่างดี” นายอนุวัฒน์ กล่าว

Back to top button