UNIQ จ่อขายหุ้นกู้ ชูดอกเบี้ย 3.9-4% โชว์เรทติ้ง “BBB”

UNIQ จ่อขายหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 8 เดือน ชูดอกเบี้ย 3.90-4% ต่อปี คาดเสนอขายนักลงทุนทั่วไป 1-3 พ.ย.นี้ ผ่านธนาคารกรุงไทย ฟาก "ทริสฯ" จัดเรทติ้งหุ้นกู้ที่ระดับ "BBB" มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี


นายเติมพงษ์  เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงินบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ผู้นำทางความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมสมัยใหม่ในด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างของประเทศอย่างมีคุณภาพและครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 3 ปี 8 เดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 3.90-4.00 % ต่อปี

โดยบริษัทจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนในภายหลัง กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดว่าจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2564 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 กันยายน  2564 ในระดับ BBB ซึ่งเป็นระดับ “ลงทุนได้” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรอยู่ที่ “BBB+” แนวโน้ม “Negative” สะท้อนความสามารถในการแข่งขัน และความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง

สำหรับหุ้นกู้ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ได้แต่งตั้งธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้  ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจจากนักลงทุนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาและจะเป็นโอกาสที่ดีอีกครั้งหนึ่งของนักลงทุนที่มีทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้การจัดอันดับเครดิตในระดับ Investment Grade ที่ BBB จากทริสเรทติ้ง นอกจากนี้การที่ UNIQ เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ยังเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทด้วย

ทั้งนี้จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน จึงได้เพิ่มช่องทางการจองซื้อหุ้นกู้ UNIQ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน  Money Connect by Krungthai  โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปจองซื้อหุ้นกู้ที่สาขาของธนาคาร

โดย UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์

รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน ลูกค้าของบริษัทจะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น เนื่องจากผลงานของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564 บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) มูลค่าประมาณ 88,655.48 ล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ยังไม่รับรู้รายได้ประมาณ 16,604.11 ล้านบาท ซึ่งมีอายุสัญญาอีกประมาณ 3 ปี และมีงานที่ชนะการประมูลและลงนามสัญญาในไตรมาส 3 ปี 2564 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 มูลค่า 10,570 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีรายได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้ลงนามกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-2 งานโยธาสำหรับช่วงดอนเมือง-นวนคร มูลค่า 10,570 ล้านบาท ครอบคลุมงานก่อสร้างโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางรวม 21.80 กิโลเมตร งานอาคารและสิ่งปลูกสร้างรองรับงานระบบรถไฟฟ้า และงานระบบระบายน้ำ งานยื้อย้ายราง ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และงานอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับโครงการ

“การที่ UNIQ ชนะการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการตอกย้ำความมั่นคงของบริษัทโดยเฉพาะในช่วงที่บริษัทต้องเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทก็ยังสามารถดำเนินโครงการได้ตามแผนที่วางไว้ ภายใต้การจัดโครงสร้างทางการเงินอย่างเข้มแข็ง” นายเติมพงษ์  กล่าวเพิ่มเติม

 

 

Back to top button