YGG จับมือ ”Zookeeper” ลุยพัฒนาเกมบนโลก “บล็อกเชน”

YGG ผนึก ”Zookeeper” พัฒนาเกมบนโลก “บล็อกเชน” ผ่านรูปแบบ Play-to-earn รับผลตอบแทนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งเหรียญคริปโตและทรัพยากรในเกม


นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทกำลังก้าวไปสู่ Chapter 2 ต้นไม้แห่งโลกดิจิทัล ภายใต้ชื่อแผนธุรกิจว่า “Level up” โดย Up 1.เป็นการผสมผสานธุรกิจหลักที่ YGG มีความถนัดและมีประสบการณ์ ทั้งงานผลิตโฆษณาและภาพยนตร์ (VFX) ธุรกิจด้านภาพยนตร์แอนิเมชั่น รวมทั้งงานด้านเกมและอินโนเวชั่น  อัพเลเวล เข้าสู่เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นเทรนด์ลูกใหญ่ในตลาดโลก เพื่อสร้างรายได้บริษัทให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

ทั้งนี้ YGG สามารถตอบโจทย์การมาถึงของเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เงินเหรียญดิจิตอล , AR, VR , MR  ,Digital influencer ซึ่งต้องการ รูปแบบคอนเทนต์สดใหม่ และแตกต่าง พร้อมกับระบบสนับสนุนทั้ง Hardware และTechnology ใหม่ๆ

โดยล่าสุดบริษัทประกาศความร่วมมือกับ zookeeper ผู้เป็นแพลตฟอร์ม decentralized บนบล็อกเชน ร่วมทำเกมบนโลกบล็อกเชน เกิดการตอบรับที่เหนือความคาดหมาย ติด Top Trending Cryptocurrencies ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ ราคาเหรียญ zoo ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดพร้อมมูลค่าตลาดของเหรียญที่เพิ่มขึ้น และมีการพูดถึงก้าวสำคัญครั้งนี้ตามหน้าสื่อใหญ่ๆ ต่างประเทศ เช่น Yahoo Finance,Yahoo News, Yahoo Money, APNews,AMB Crypto, BeInCrypto, Bitcoinist, NewsBTC CryptoPotato, BTCManager, CoinSpeaker, And 100+ others cryptonews website

สำหรับUp2.บริษัทจะมีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) เพื่อตอบสนองความต้องการที่เหนือระดับให้ลูกค้า โดยการขึ้นสู่ธุรกิจต้นน้ำ สร้างฐานธุรกิจเพื่อการเติบโตในรูปแบบใหม่ จากปัจจุบันธุรกิจของ YGG  ให้บริการผลิตคอนเทนท์ VFX และ แอนิเมชั่น คุณภาพสูงให้กับตลาดต่างประเทศ และในประเทศ มีผลงานผ่านตามากมาย อาทิเช่น Final fantasy Kingglave, นาจา, Cinematic game ดังอื่นๆ, ผลงานโฆษณา รถยนต์ ยุโรป และ ญี่ปุ่น รวมทั้งโฆษณาตัวใหญ่ในประเทศอีกหลายตัว และในอนาคตอันใกล้นี้จะเห็นการ์ตูนและซีรีส์ที่ YGG จับมือ กับพันธมิตร สร้างสรรค์ผลงานระดับโลก

ส่วนธุรกิจเกม YGG ได้ผันตัวจากการรับจ้างผลิตมาต่อยอดทำเกมของตัวเองอย่างเกม Home Sweet Home  Survive มียอดผู้เล่นกว่า 150,000 ราย  รวมทั้งยังมีเกมจ่อคิวในแผนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เสริมทัพ จนเป็นผู้ผลิตเกมระดับโลก

นายธนัช ยังได้กล่าวถึงการประกาศความร่วมกับ Zookeeper ว่า YGG จะเข้าไปสร้างและร่วมพัฒนาเกมให้กับ Zookeeper ซึ่งโมเดลธุรกิจของ ZooKeeper จะวางอยู่บนพื้นฐานของตัวโทเคนสกุล $ZOO โดย ZooKeeper วางแผนที่จะขยายไปในเชนอื่นๆ อีกในอนาคต และทุกๆ การขยายเชน จะมีการเพิ่มเหรียญใหม่เข้าสู่ระบบ ซึ่งนอกเหนือจากค่าจ้างการผลิตเกมแล้ว YGG จะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญใหม่บางส่วน นอกจากนี้ YGG ยังสามารถแบ่งรายได้จากการขายทรัพยากรในเกมและ NFT

ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เกมที่ผลิตโดย YGG ได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั่วโลกเพราะเกมได้ทั้งความสนุกและให้ผลตอบแทนด้วยทำให้สามารถดึงผู้เล่นกลุ่มใหม่เข้ามาได้ ภายใต้โมเดลของ Play-to-earn ซึ่งเป็นเทรนด์ใหญ่ของตลาดคริปโตที่กำลังได้รับความสนใจของตลาดเกม NFT  โดยผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในเกม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเหรียญคริปโตหรือทรัพยากรในเกมที่เป็นโทเคน เราคาดหวังว่าเกมของเราจะช่วยผลักดัน $ZOO ให้มีศักยภาพเทียบเท่า Axie ผู้นำของเกม Play-to-earn ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ” นายธนัช กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทได้เปิดตัวเกมที่บริษัทพัฒนาเองกระแสยังแรงต่อเนื่อง โดยบริษัทได้จัดให้มีการแข่งขันเกมภายใต้ชื่อ “Home Sweet Home : Survive Asia tournament 2021” ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่แห่งวงการ Esportในประเทศไทย เพราะเป็นเกมไทยเกมแรกที่ถูกจัดให้มีการแข่งขันอย่างเป็นทางการ และอาจจะเป็นเกมแรกๆ  ของโลก ที่มีการให้รางวัลในการแข่งเป็น NFT ซึ่งปัจจุบันกำลังแข่งขันในรอบ Grand Final เพื่อหาทีมผู้ชนะ

เส้นทางการเติบโตของ YGG ยังไม่ได้จบแค่นี้ มีอีกหลายอย่างที่บริษัทกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เพื่อเตรียมไว้สำหรับโลกอนาคตอันใกล้นี้ และแผนธุรกิจ Level Up จะเป็นกลไกลขับเคลื่อนบริษัทให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากแผน UP 1 ที่ผลักดันให้บริษัทเข้าสู่เทรนด์โลก ด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ขณะที่แผน UP 2 ที่ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกขึ้นสู่ธุรกิจต้นน้ำในทุกกลุ่มธุรกิจของ YGG ก็จะเสริมความแข็งแกร่งให้ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน” นายธนัช กล่าว

Back to top button