โบรกฯชี้ “แบงก์” Q3 ส่อกำไรหด! หลังตั้งสำรองสูง-สินเชื่อชะลอ เซ่นพิษโควิด-19

โบรกฯชี้ “กลุ่มแบงก์” ไตรมาส 3 ส่อกำไรหด! หลังตั้งสำรองสูง-สินเชื่อชะลอ พร้อมกับรายได้ค่าธรรมเนียมลดลงอย่างมาก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเร่งตัวขึ้น ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์จะเริ่มทยอยประกาศงบการเงินในไตรมาส 3/2564 ออกมา ซึ่งจะนำโดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ภายในสัปดาห์นี้  ทาง “ข่าวหุ้นออนไลน์” จึงขอหยิบยกข้อมูลจากบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีการคาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มานำเสนอนักลงทุนเพื่อให้เป็นแนวทางในการตัดสินใจต่อการลงทุน

สำหรับบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ (7 ต.ค.2564) โดยคาดว่ากำไรสุทธิของธนาคารส่วนใหญ่ในไตรมาส 3/2564 จะลดลง 12% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำเพราะมีการตั้งสำรองก้อนใหญ่ในไตรมาส 3/2563 อย่าง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB

ขณะที่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL บันทึกค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานก้อนโต ส่วนในกรณีของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มีความกังวลเกี่ยวกับ NPL ในกลุ่ม SME ซึ่งทำให้ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มสมมติฐานการตั้งสำรอง และไปหักล้างกับ NII ที่เพิ่มขึ้นจากสินเชื่อ ในขณะที่คาดว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมจะลดลงจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลาดทุน และ Wealth

ทั้งนี้รายได้ค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มชะลอตัวลงทุกธนาคาร และจะกดดันการเติบโตจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะในกรณีของ BBL ซึ่งทางฝ่ายวิจัยใช้สมมติฐานว่ากำไรจากการลงทุนและ FVTPL ลดลงจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรขยับสูงขึ้นมาก

อย่างไรก็ตามหากไม่รวมการตั้งสำรอง ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรของธนาคารจากธุรกิจหลัก (PPOP – FVTPL) จะลดลงเพียง 2% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 3/2564 และลดลงเพียง 2% ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยใช้สมมติฐานว่าสินเชื่อจะอ่อนแอในช่วงที่โควิด-19 ระบาด โดยมีเพียง KTB และ KBANK เท่านั้น ที่สินเชื่อยังคงขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่สินเชื่อของบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO และ TTB หดตัว ส่วนของ BBL และ SCB ทรงตัว ซึ่งคาดว่าทุกธนาคารจะยังคงเดินหน้าบีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ลดลง โดยเฉพาะ SCB, TTB และ TISCO

นอกจากนี้คาดว่า NPL ของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากไตรมาสก่อน และ 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น และการออกมาตรการให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมีการขอเข้าโครงการพักหนี้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยค่างวด 3 เดือนน่าจะทำให้ NPL เร่งตัวขึ้นในไตรมาส 3/2564

โดยผลดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ KBANK, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP และ TISCO จะถูกกดดันภายใต้สถานการณ์นี้ จากหนี้ในกลุ่ม SME และเช่าซื้อรถยนต์ และต้องตั้งคชจ.สำรองฯ (credit cost) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ SCB, BBL และ KTB จะเผชิญแรงกดดันน้อยกว่า

อนึ่งผลการดำเนินไตรมาส 3/2564 ของกลุ่มธนาคารคาดปรับตัวลดลง ประเด็นหลักคงหนีไม่พ้นจากกรณีส่วนของ NPL และตั้งสำรองเพิ่มขึ้น พร้อมกับรายได้ค่าธรรมเนียมลดลงอย่างมาก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเร่งตัวขึ้น ทั้งนี้ผลดังกล่าวจึงส่งผลให้ภาพรวมกลุ่มธนาคารไม่ค่อยดีนักในไตรมาส 3/2564

อย่างไรก็ดีแม้ว่าทางฝ่ายวิจัยจะคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 อาจหดตัว แต่คาดว่าไตรมาส 4/2564 จะดีขึ้น โดยคาดว่าจะมีการกระจายวัคซีนเพิ่มขึ้น และยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่จะลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นจะช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ และการตั้งสำรอง

นอกจากนี้ก็ยังมีทางด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ก็มีการประเมินผลประกอบการ 3/2564 ของกลุ่มแบงก์จะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์หน้า โดยระบุในบทวิเคราะห์ (11 ต.ค. 2564) ซึ่งธนาคารแรกคาดว่าจะประกาศออกมาในวันที่ 15 ต.ค. 2564 เป็น TISCO คาดว่าจะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,566 ล้านบาท ลดลง 2.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 6% จากไตรมาสก่อน

ต่อจากนั้น ถัดไปในวันที่ 19 ต.ค. 2564 จะมีทางด้าน KKP จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,242 ล้านบาท ลดลง 7.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 8.30% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่ในวันที่ 20 ต.ค. 2564 คาดว่าก็จะมีส่วนของธนาคารจะประกาศงบออกมา TTB จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 2,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 18.80% จากไตรมาสก่อน

เช่นเดียวกับ KBANK จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 8,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 4.30% จากไตรมาสก่อน

พร้อมด้วย SCB จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 15.60% จากไตรมาสก่อน

ส่วนในวันที่ 21 ต.ค. 2564 คาดว่าก็จะมีส่วนของธนาคารจะประกาศงบออกมา BBL จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 2.50% จากไตรมาสก่อน

รวมทั้ง KTB จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,446 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 9.40% จากไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตามเป็นเพียงการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เบื้องต้นก่อนธนาคารจะมีการประกาศ แต่เมื่อถึงวันที่ประกาศผลงบไตรมาส 3 ออกมานั้น ก็ต้องมาติดตามกันดูว่าแต่ละแบงก์นั้นจะมีกำไรมากน้อยตามโบรกฯคาดหรือไม่ โดยทางข่าวหุ้นออนไลน์จะทยอยรายงานให้ทราบต่อไป

 

 

Back to top button