DTAC กำไรไตรมาส 3 ลดกว่า 40% เหลือ 832 ลบ. หลังต้นทุน-ค่าใช้จ่ายพุ่ง

DTAC รายงานกำไรไตรมาส 3/64 ลดลง 42% เหลือ 832 ลบ. หลังต้นทุน – ค่าใช้จ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนงวด 9 เดือนกำไร 3.18 พันลบ. ลดลง 34% จากปีก่อนมีกำไร 4.82 พันลบ.


บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยในงวดไตรมาส 3 รายได้รวมอยู่ที่ 19,232 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.8 จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการปิดร้านค้าเนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 จากไตรมาส เดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าเช่าเครือข่าย 2300 MHz จาก TOT ทั้งนี้รายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย อยู่ที่ 13,978 ล้านบาท ซึ่งลดลงร้อยละ 2.1 จาก ไตรมาสก่อน และร้อยละ 2.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากความกดดันทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ส่วนรายได้จากการให้บริการอื่นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 328 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 42.2 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการบริการโทรทางไกลระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติจากการเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า

ขณะที่รายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติในไตรมาสนี้อยู่ที่ 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากไตรมาสก่อนจากการเพิ่มขึ้นของการใช้ บริการข้ามแดนอัตโนมัติในต่างประเทศ แต่ลดลงร้อยละ 18.3 จาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลหลักมาจากการลดลงของการบันทึกรายได้ค้างรับจากการใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติในประเทศ

ด้านรายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายในไตรมาสนี้เท่ากับ 1,177 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30.9 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 5.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการปิดร้านค้าเนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับโควิด-19

ขณะที่ต้นทุนการให้บริการอื่นในไตรมาสนี้เท่ากับ 5,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 17.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนค่าโรมมิ่งบนเครือข่าย 2300 MHz ของ TOT ทั้งนี้ต้นทุนสุทธิค่าโรมมิ่งบนเครือข่าย 2300 MHz ของ TOT หลังหักรายได้จากค่าเช่าเครือข่ายที่ได้รับจาก TOT อยู่ที่ประมาณ 1,273 ล้านบาทในไตรมาส 3/64 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ส่วนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของต้นทุนการให้บริการในไตรมาสนี้เท่ากับ 5,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 8.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลหลักมาจากการตัดค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่น 700 MHz การตัดค่าเสื่อม ราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามมาตรฐานบัญชี IFRS16 และการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

Back to top button