TU มั่นใจ Q4 ดีต่อเนื่อง! ยอดขายอาหารแช่แข็ง-สัตว์เลี้ยงพุ่ง ดันกำไรขั้นต้นปีนี้โต 18%

TU มั่นใจ Q4 ดีต่อเนื่อง! ยอดขายอาหารทะเลแช่แข็ง-สัตว์เลี้ยงพุ่ง ดันกำไรขั้นต้นปีนี้โต 18% พร้อมปรับงบลงทุนปี 64 มาที่ 4-4.5 พันลบ. เตรียมดัน "ไอ-เทลฯ" เข้าตลาด H2/65


นางสาวเกวลี ทองสมอางค์ หัวหน้าหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ TU เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจไตรมาส 3/2564 และงวด 9 เดือนปี 2564 พร้อมทั้งแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือปีนี้และปีหน้าผ่านงาน Opportunity Day ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทมั่นใจในไตรมาส 4/64 ผลประกอบการจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเห็นแนวโน้มธุรกิจเป็นบวกจากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food)

โดยในปีนี้คาดรายได้ของบริษัทจะเติบโต 3-5% หลังจากงวด 9 เดือน 2564 มีรายได้อยู่ที่ 1.03 แสนล้านบาท เติบโต 3.6% และมีกำไรสุทธิแข็งแกร่งมาที่ 6.08 พันล้านบาท เติบโต 27% นอกจากนี้บริษัทได้ปรับลดวงเงินลงทุนในปี 64 มาที่ 4.0-4.5 พันล้านบาท จากเดิมวางงบไว้ 5 พันล้านบาท โดยจะเลื่อนการใช้งบบางส่วนไปเป็นปีหน้า

“ผลประกอบการช่วง 9 เดือนเดือนที่ผ่านมากำไรสุทธิยังคงแข็งแกร่ง ดังนั้นคาดว่าในไตรมาส 4/64 ยังเป็นบวก (positive) โดยในส่วนของธุรกิจอาหารแช่แข็งก็ยังดี ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบของโควิดปิดโรงงานไป 2 สัปดาห์ในไตรมาส 3/2564 แต่ตอนนี้กลับมาเดินเครื่องเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว และเริ่มเห็นภาพที่ดีของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงฟื้นตัวเด่น ” นางสาวเกวลี กล่าว

ทั้งนี้นอกจากธุรกิจอาหารแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ายังคงเป็นธุรกิจสำคัญต่อบริษัทแล้ว บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Healthy Living” และธุรกิจแบรนด์ อาหารทะเลแปรรูปที่มีอัตรากำไรสูง

โดยบริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องที่อุดมไปด้วยวิตามิน BG และ B12 วิตามิน C และ โอเมก้า 3 จากธรรมชาติ อีกทั้งมีโปรตีนสูงและดีต่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ John West ใน สหราชอาณาจักร โดยบริษัทฯจะยังคงเดินหน้าสร้างความร่วมมือเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Healthy Living” ในตลาดยุโรปต่อไป นอกจากนี้บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋อง “น้ำพริกนรกทูน่า” ที่สะดวกในการรับประทานมีรสจัดจ้านและมีโปรตีนสูง ภายใต้แบรนด์ SELECT โดยแนะนำผลิตภัณฑ์ผ่านทาง Amado TV shopping ในประเทศไทย

ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มช่วยให้ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งมีอัตรากำไรสูงขึ้นสนับสนุนโดยระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ สำหรับทั้งธุรกิจรับจ้างผลิตและธุรกิจแบรนด์ของบริษัทฯ เช่น Chicken of the Sea Frozen Foods และ โมโน เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ (Artir attorn) เพิ่มขึ้น เช่น การแกะเปลือกกุ้ง เครื่องบรรจุหีบห่อ กึ่งอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต

นอกจากนี้บริษัทฯได้ผลักดันการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าด้วยสินค้านวัตกรรม โดย ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (IC) เปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเลี้ยงในตลาดหลักทั่วโลก ทั้งเครื่องดื่มสำหรับสุนัขและแมว แฮมเบอร์เกอร์ และขนม puree สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยมุ่งเน้นการดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์สำหรับช่วงอายุของสัตว์เลี้ยง รวมทั้งโปรตีนทางเลือกและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากแมลง

ด้านธุรกิจใหม่บริษัทวางแผนสร้างโรงงานผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตและคอลลาเจนเปปไทด์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยตั้งงบลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะออกจำหน่ายไตรมาส 4/2565 ซึ่งแผนดังกล่าวจะสนับสนุนธุรกิจอินกรีเดียนท์ (Ingredients) ที่นำโดย บริษัท ไทยยูเนียน อินกรีเดียน(TUI) สำหรับการเติบโตในตลาดโภชนาการสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

นอกจากนี้บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ZEAVITA ในเดือนกันยายน 2564 ซึ่งประกอบด้วยสินค้าประเภท คอลลาเจน แคลเซียม และน้ำมันปลาทูน่า วางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศที่วัตสันและช่องทางออนไลน์อื่นๆ

ส่วนแนวโน้มในปี 65 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยปกติจะเติบโต 3-5% โดยบริษัทมุ่งเน้นความสามารถทำกำไร คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) น่าจะสูงขึ้นจากปีนี้คาดไว้ที่ 17-18% โดยมองว่าทุกธุรกิจมีแนวโน้ม positive ซึ่งธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง และอาหารสัตว์เลี้ยง ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง รวมทั้งคาดว่าธุรกิจ Red Lobster ซึ่งเป็นร้านอาหารจะกลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19

นอกจากนี้ ในปี 65 บริษัทจะเริ่มรับรู้กำไรเต็มปีจากที่ TU เข้าลงทุน บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) สัดส่วน 10% ก็จะรับรู้กำไรตามสัดส่วนการลงทุน และยังมีรายได้จากธุรกิจใหม่ที่เป็นอาหารเสริมแบรนด์ Zeavita ก็จะมีรายได้เข้ามาเต็มปี  

นางสาวเกวลี กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะนำ บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ (Pet Food) เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ซึ่งก็จะทำให้ TU ได้รับรู้มูลค่าที่แท้จริง

Back to top button