“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! หลังดาวโจนส์ร่วง-นลท.ซึมซับผลประชุม ECB-BoE

“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! หลังดาวโจนส์ปิดลบ นลท.ซึมซับผลประชุมธนาคารกลางยุโรปที่มีมติคงดอกเบี้ย ส่วนธนาคารกลางอังกฤษมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ โดยถูกกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.2564) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,854.60 จุด ลดลง 211.72 จุด หรือ -0.73%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,463.78 จุด ลดลง 11.72 จุด หรือ -0.05% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,670.26 จุด ลดลง 4.76 จุด หรือ -0.13%

ขณะเดียวกันนักลงทุนซึมซับข้อมูลหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเดือนละ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค.2565

นอกจากนี้ในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 และปรับขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้งในปี 2566 และปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2567

ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 2 ของปี 2565 และลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 3 ขณะที่คงวงเงินที่ระดับ 2 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่เดือนต.ค.2565 และจะซื้อพันธบัตรนานเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด โดย ECB จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) และจะยุติโครงการดังกล่าวในเดือนมี.ค.2565

ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดการเงิน โดยมีมติ 8-1 เสียงในการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ BoE มีมติ 9-0 เสียง สนับสนุนการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 8.75 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

Back to top button