โบรกอัพเป้า JMART-JMT ขึ้นอีก 30% มองเพิ่มทุนจบหนุน “เจ มาร์ท” โตแกร่ง 3 ปี

โบรกอัพเป้า JMART-JMT ขึ้นอีก 30% มองเพิ่มทุนจบหนุน “เจ มาร์ท” โตแกร่ง 3 ปี แถม BTS ร่วมพันธมิตรเสริมแกร่งฐานลูกค้า-เพิ่มอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มให้บริษัทในอนาคต


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(21 ธ.ค.64) ว่า สำหรับหุ้นบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART  และ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT โดยมีมุมมองเชิงบวกพร้อมกับปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของทั้งสองหุ้นขึ้นกว่า 30%

โดยหลังการเพิ่มทุนเสร็จสิ้นจะทำให้ JMART สามารถรักษาการเติบโตที่แข็งแกร่งได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมถึงยังสามารถเดินหน้าตามแผนการเติบโตที่วางไว้ นอกจากนั้นการมี บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เข้ามาเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านฐานลูกค้า เพิ่มอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มให้กับบริษัท นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการนำคริปโตมาใช้ในระบบนิเวศน์ใหญ่ รวมถึงความเป็นไปได้ในการสร้าง JV ร่วมกับ JMT

ทางด้าน JMT ซึ่งจะมีศักยภาพการเติบโตจากการซื้อสินทรัพย์ และการตั้ง JV กับธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มจากธุรกิจ AMC โดยมองว่า JMT นั้นเป็นตัวเลือกอันดับต้นในการร่วมทุนกับธนาคารเพื่อทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และความชัดเจนจากธปท.เรื่องการช่วยธนาคาร และลูกหนี้ด้วยการตั้ง AMC จะออกมาในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้ หรือภายในไตรมาส1/2565

จากยอดจัดเก็บหนี้การซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มองว่าจะทำให้ยอดจัดเก็บหนี้ในไตรมาส 4/2564 ของ JMT สูงขึ้น 15% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 44%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทั้งปีจะโต 25% แม้ทางธนาคารจะเลื่อนการประมูล NPL ออกไปก็ตามโดยคาดว่าการซื้อสินทรัพย์ในไตรมาส 4/2564 จะอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท เทียบกับ 3.5 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้มาร์จิ้นคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 250bps เทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4/2564 แต่จะยังน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของ asset mix และคาดว่ากำไรของ JMT ในไตรมาส 4/2564 จะอยู่ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ 23% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนทั้งปีคาดอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท

ส่วนธุรกิจ J-Mobile มองว่าการเติบโตจะมาจากรายได้ และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 เติบโต 14% แต่กำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้นกว่า 300% จากความสามารถการบริหารอัตรา SG&A ให้ลดลงจาก 14% ในปี 2563 มาอยู่ที่ 12.5% ด้วยการปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่าย และในอนาคต การเข้ามาของ BTS จะช่วยเสริม J-Mobile ด้านส่วนประสมผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ซึ่งจะช่วยให้กำไรสามารถเติบโตได้อีก โดยคาดว่า J-Mobile จะมีกำไรในปี 2564 ที่ 200 ล้านบาท และ 320 ล้านบาท ในปี 2565 และปี 2566 อยู่ที่ 430 ล้านบาท

โดยปรับคำแนะนำ JMT จาก Neutral เป็น Outperform และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 58 บาท เป็น 77 บาท จากยอดการจัดเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2564 และการบริหารต้นทุนการดำเนินงานส่วนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพแบบมีหลักค้ำประกันที่ลดลง ส่วนมาร์จิ้นใน 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาทุนตัดจำหน่ายของการลงทุนที่สูงขึ้น

นอกจากนั้นยังปรับเพิ่มราคาเป้าหมายให้กับ JMART จาก 48 บาท มาอยู่ที่ 65 บาท และคงมุมมอง Outperform ผลักดันโดยการเติบโตของกำไรจาก JMT (60% ของกำไร JMART) และ J-Mobile (17% ของกำไร JMART) ส่วนธุรกิจใหม่อย่าง J-Elite และ ฟินเทค & คริปโต จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับ JMART แต่กำไรจะปรากฎในช่วงปี 25566

บริษัทยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่งจากการตั้งบริษัทร่วมทุนกับ BTS และบริษัทร่วมทุนอีกแห่งกับ Kookmin Bank ของเกาหลี และยังมีแนวโน้มได้เป็นพันธมิตรร่วมกับ JMT อีกด้วย

Back to top button