สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เหมือนกับที่เคยทำในเดือนมี.ค. 2563 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเดินทาง รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และไนกี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,492.70 จุด เพิ่มขึ้น 560.54 จุด หรือ +1.60%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,649.23 จุด เพิ่มขึ้น 81.21 จุด หรือ +1.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,341.09 จุด เพิ่มขึ้น 360.14 จุด หรือ +2.40%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (21 ธ.ค.) โดยดีดตัวขึ้นหลังจากถูกเทขายอย่างหนักในวันจันทร์ ขณะที่โดยการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 473.99 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด หรือ +1.42%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,964.99 จุด เพิ่มขึ้น 94.89 จุด หรือ +1.38%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,447.44 จุด เพิ่มขึ้น 207.77 จุด หรือ +1.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.41 จุด เพิ่มขึ้น 99.38 จุด หรือ +1.38%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (21 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และกลุ่มเดินทางที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากตลาดร่วงต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันจันทร์จากความวิตกที่ว่า การพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้มีการออกมาตรการจำกัดรอบใหม่

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.41 จุด เพิ่มขึ้น 99.38 จุด หรือ +1.38%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 71 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศแม้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,788.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 23.8 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 22.529 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 927.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 47.20 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1793.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 96.4892 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2947 ดอลลาร์แคนาดา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.10 เยน จากระดับ 113.71 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9238 ฟรังก์ จากระดับ 0.9222 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1281 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1274 ดอลลาร์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ที่ระดับ 1.3264 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3202 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7110 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button