สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์และ S&P500 ต่างก็ปิดทำนิวไฮ ขานรับความเชื่อมั่นที่ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดลบเนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,488.63 จุด เพิ่มขึ้น 90.42 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,793.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,766.22 จุด ลดลง 15.51 จุด หรือ -0.10%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพุธ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ และได้เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มเดินทางออกมา ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 487.98 จุด ลดลง 0.52 จุด หรือ -0.11%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,161.52 จุด ลดลง 19.59 จุด หรือ -0.27% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,852.25 จุด ลดลง 111.45 จุด หรือ -0.70% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,420.69 จุด เพิ่มขึ้น 48.59 จุด หรือ +0.66%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (29 ธ.ค.) โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง หลังจากตลาดปิดทำการ 2 วันเนื่องในวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส โดยหุ้นกลุ่มปลอดภัยนำตลาดปรับตัวขึ้น แม้อังกฤษรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์ แต่ประกาศว่าจะไม่มีการออกข้อจำกัดใหม่ ๆ ในการควบคุมโรคโควิดเพิ่มขึ้นในปีนี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,420.69 จุด เพิ่มขึ้น 48.59 จุด หรือ +0.66%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 76.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% และจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,805.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 26.3 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 22.858 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 970 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1.987 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่นดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินปอนด์ หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ 95.9435 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9148 ฟรังก์ จากระดับ 0.9175 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2795 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2816 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 114.97 เยน จากระดับ 114.81 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1340 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1302 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ  1.3485 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3423 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7250 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7229 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button