JMART ลั่นกำไรปี 65 โต 50% สยายปีกยกชั้นขึ้น “โฮลดิ้งเทคโนโลยี”

JMART มั่นใจกำไรปีนี้โต 50% “นิวไฮ” ต่อเนื่อง สยายปีกยกชั้นขึ้น “โฮลดิ้งเทคโนโลยี” ขับเคลื่อนด้วยพลัง Synergy เทคโนโลยีและบล็อกเชน พร้อมดึง Big Data เข้ามาช่วยหนุนการเติบโต


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2565 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตได้ถึง 50% จากปัจจัยหนุนการผนึกกำลังในเครือ JMART และการจับมือพันธมิตรรายใหม่ ด้วย Exponential Growth หรือ J Curve ทำให้เกิด Ecosystem ในด้านธุรกิจค้าปลีก (Commerce) และธุรกิจการเงิน (Finance) ด้วยกลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มธุรกิจจาก Investment Holding Company เป็น Technology Investment Holding Company อย่างเต็มรูปแบบ ขับเคลื่อนด้วยพลัง Synergy เทคโนโลยีและบล็อกเชน และ Big Data เป็นปัจจัยหลักเข้ามาช่วยหนุนการเติบโต

สำหรับแผนงานในปี 2565 กลุ่ม JMART จะเติบโตแบบยกกำลัง 2 จากการต่อยอดพลัง Synergy กลุ่มพันธมิตร โดยเฉพาะ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งจะเห็นเมกะโปรเจกต์ร่วมกันมากขึ้น และเตรียมนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในช่วงปลายปี 2564 มาเติบโตต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เป็น Platform ด้านค้าปลีกและการเงิน คาดว่าจะได้เห็นความร่วมมือเกิดขึ้นในปีนี้อีก 2-3 ดีล ซึ่งน่าจะประกาศโครงการแรกได้ในเร็วๆ นี้ เป็นพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านค้าปลีกและการเงินที่สามารถเข้ามาต่อยอดการเติบโตของบริษัท

ด้านนายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนไว้ราว 2,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะใช้ลงทุนในบริษัท JayDee Group.,Ltd เพื่อประกอบธุรกิจในรูปแบบการรวมตัวของผู้ประกอบการดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศที่ดำเนินกิจการมามากกว่า 10 ปี ซึ่งปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง การเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับ JMART จะช่วยให้สามารถแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และบริษัทจะนำสินค้าจาก เจ โมบาย หรือสินค้าอื่นๆ เข้าไปจำหน่ายยังหน้าร้านค้าต่างๆ ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรดังกล่าว

นอกจากนั้นจะนำเงินบางส่วนไปใช้ในการขยายกิจร่วมระหว่าง บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เพื่อขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและโซลาร์โซลูชั่นผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายและการจัดหาสินเชื่อ โดยกลุ่มธุรกิจในเครือ SINGER ทั่วประเทศ สัดส่วนการลงทุนประกอบด้วย JMART 40% SINGER 10% และ GUNKUL 50% ซึ่งทิศทางการเติบโตจากนี้คาดว่าจะนำบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในอนาคต

อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพื่อที่จะจัดตั้งบริษัท Thailand Amz Co.,Ltd เพื่อดูแลและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้า จำหน่ายสินค้า และทำการตลาดผ่านออนไลน์ นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาการลงทุนในธุรกิจอื่นๆเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้ามาหนุนการเติบโตของบริษัท และเป็นการเพิ่ม Ecosystem

ขณะที่นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด (JAYMART MOBILE) ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือและอุปกรณ์เสริม เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 50% หรือ 12,500 ล้านบาท และกำไรเติบโตเท่าตัว จากการบริหารจัดการภายในที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงการปรับรูปแบบธุรกิจให้เหมาะสมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยบริษัทฯ ได้ขยายสาขาผ่านการเปิดร้านเจมาร์ทซินเนอร์ยี่กับ SINGER และในพื้นที่ของบริษัทในเครือ รวมถึงการขายสินค้าผ่านช่องทาง Synergy ด้วยสินเชื่อจาก KB J Capital และ SINGER

โดยบริษัทฯ มี 4 กลยุทธ์หลัก คือ Gadget Destination มุ่งเน้นสินค้าด้านเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์ใหม่ผู้บริโภค, Financial Destination การตอบโจทย์บริการด้านสินเชื่อ ไม่มีบัตรก็ผ่อนได้, Digital Transformation การขยายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และ Power of Synergy การมีเครือข่ายการขายที่แข็งแกร่ง ผ่านช่องทางของ SINGER และ BTS Group ทั้งนี้ มองว่านโยบายภาครัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืน” จะสนับสนุนให้ภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยในช่วงต้นปี 2565 กลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ Digital และ Metaverse เป็นปัจจัยหนุนให้สินค้าเทคโนโลยีเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

Back to top button