SNNP ส่งซิกผลงาน Q1 แจ่ม! รับมาร์จิ้นพุ่ง วางเป้ารายได้ปี 65 โต 15%

SNNP ส่งซิกผลงานไตรมาส 1/65 แจ่ม รับมาร์จิ้นพุ่ง! วางเป้ารายได้ปี 65 โต 15% ด้านโรงงานเวียดนามคาดสร้างเสร็จไตรมาส 2/65 จ่อเดินเครื่องผลิตสินค้าไตรมาส 3/65 เป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าทั่วโลก


คุณวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ ผ่านรายการ ข่าวหุ้น ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 2 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

ภาพรวมหลังเข้าเทรดในตลาด มีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด

สำหรับภาพรวมธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวในปี 2564 มีพัฒนาการสำคัญหลายด้าน โดยเฉพาะไตรมาส 4/2564 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับไตรมาสนี้ โดยบริษัทได้วางแผนออกสินค้าใหม่ๆ อาทิ เจเล่ชิววี่ และยังจับมือกับพันธมิตรอย่าง ”เนสท์เล่” เพื่อออกผลิตภัณฑ์ “Jele x NESTEA”

นอกจากนี้ได้และออกสินค้าขนมรูปน่องไก่โลตัส ผสมใบกัญชา ซึ่งได้รับการตอบรับเยี่ยมจากกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังจับมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เพื่อวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทได้เดินหน้าทำการตลาดครบวงจรทั้งออพไลน์และออนไลน์ จึงคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2564 จะเติบโตโดดเด่น และคาดผลประกอบการปี 2564 ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทและแจ้งงบการเงินปี 2564 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

ในปี 2565 เศรษฐกิจมีทิศทางการฟื้นตัว กำลังซื้อของประชาชนเริ่มกลับมาดีขึ้น ทาง SNNP มองถึงตรงจุดนี้อย่างไร

ส่วนแนวโน้มผลงานในปี 2565 โดยบริษัทคาดว่าผลงานไตรมาส 1/2565 กำไรเติบโตดีกว่าไตรมาส 4/2564 เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับปลายไตรมาส 4/64 ได้ออกสินค้าใหม่ๆ ทำให้ยอดขายเดือนมกราคมเติบโตเกินเป้าที่วางไว้

ขณะเดียวกันในไตรมาสแรกปีนี้มีแผนออกสินค้าใหม่ที่เกี่ยวกับกัญชง-กัญชา โดยจะออกผลิตภัณฑ์ “เยลลี่ผสมกัญชง-กัญชา” คาดวางจำหน่ายในช่วงปลายไตรมาสแรกถึงต้นไตรมาสสอง คาดจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้ธุรกิจเติบโตเด่นเด่นในปีนี้

ส่วนแนวโน้มธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ขณะเดียวกันมาร์จิ้นคาดว่าจะเติบโตโดดเด่น จากการปรับขนาดสินค้าใหญ่ขึ้นและปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้น

การก่อสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายฐานการผลิตในขณะนี้ มีความคืบหน้าเป็นอย่างไร และจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ SNNP อย่างไร

สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงานในประเทศเวียดนามมีความคืบหน้า คาดจะแล้วเสร็จประมาณปลายไตรมาส 2/2565 และสามารถเผลิตสินค้าได้ประมาณไตรมาส 3/2565 เนื่องจากมองประเทศเวียดนามมีศักยภาพค่อนข้างดีในอนาคต เนื่องจากมีประชากรร้อยล้านคน อยู่ช่วงวัยทำงานค่อนข้างเยอะ ผู้บริโภคในตลาดเวียดนามรู้จักสินค้า “เจเล่-เบนโตะ-โลตัส”เป็นอย่างดี โดยบริษัทลงทุนอยู่ในตลาดเวียดนามมานานกว่า10 ปี การตั้งโรงงานตลาดเวียดนามถือเป็นการยกระดับที่ก้าวกระโดดของบริษัท

ในอนาคตยอดขายหลังจากตั้งโรงงานเสร็จรวมทั้งเฟส 1 และเฟส 2 บริษัทคาดจะสามารถขยายกำลังการผลิตได้เต็มกำลัง และสามารถเพิ่มยอดขายตลาดเวียดนามเพิ่มขึ้น และในอนาคตตลาดเวียดนามจะเป็นศูนย์กลางในการผลิตสินค้าและเป็นตัวกลางในการส่งออกไปทั่วโลก

อีกทั้งสามารถลดต้นทุนต้นทุนพวกแป้ง ,ปลา,แพคเกจจิ้ง ซึ่งถูกกว่าประเทศไทย และจะลดต้นทุนด้านการขนส่งจากปัจจุบันบริษัทส่งสินค้าจากเมืองไทยไปที่เวียดนาม หากตั้งโรงงานแล้วเสร็จจะทำให้ต้นค่าค่าขนส่งสินค้าลดลง

นอกจากนี้ยอดขายจะเพิ่มขึ้น โดยบริษัทได้ออกสินค้าพรีเมี่ยมแมส เช่น ออกเบนโตะขนาดใหญ่ราคา 30 บาท ปรากฏว่ามีสัดส่วน 20% ของยอดขาย และออกเจเล่ บิวตี้ ขนาดราคา 15 บาท ซึ่งคาดว่าจะดันให้มาร์จิ้นเพิ่มมากขึ้น และวางแผนจะเปิดบริษัทย่อยเพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเสริม โดยจะออกสินค้าราคาพรีเมี่ยม คาดว่าจะช่วยให้ดันมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอีกทาง

Back to top button