“มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ประกาศชัดกลางสภาฯ ลาออก ส.ส. “พรรคเศรษฐกิจใหม่”

“มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ประกาศชัดกลางสภาฯ ลาออก จาก ส.ส. บัญชีรายชื่อ “พรรคเศรษฐกิจใหม่” โดยถือเป็น ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ คนเดียว ที่ทำงานร่วมกับฝ่ายค้านมาโดยตลอด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.พ. 2565) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ประกาศลาออกจากการ ส.ส.ระหว่างการอภิปรายในที่ประชุมสภาฯ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันแรก โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม

โดยให้เหตุผลระหว่างการอภิปราย ระบุว่า จะขอออกไปใช้ความรู้ความสามารถทำงานให้ประชาชน จะออกไปพิสูจน์ว่าแม้ ตนเองไม่ได้เป็นรัฐบาลความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่ และจะออกไปเตรียมตัวเพื่อการเลือกตั้งในครั้งต่อไป พร้อมขอบคุณคะแนนเสียงของประชาชน ขอบคุณเพื่อนสมาชิก ประธานสภาฯ ก่อนที่สมาชิกจะปรบมือให้ในห้องประชุม

สำหรับ นายมิ่งขวัญ ถือเป็น ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ คนเดียว ที่ทำงานร่วมกับฝ่ายค้านมาโดยตลอด

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2562 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ทำหนังสือประกาศการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าหน้าพรรค โดยให้เหตุผลว่า เนื่องการการบริหารจัดการในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตามที่ข้าพเจ้าได้เคยแถลงข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่า การบริหารจัดการในพรรคได้แบ่งแยกภารกิจการทำงานออกเป็น 2 ส่วน อย่างชัดเจน

“กล่าวคือข้าพเจ้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการร่างนโยบายระบบเศรษฐกิจใหม่ การออกไปพูดกับสาธารณชน และสื่อต่างๆ ส่วนการบริหารกิจการภายในพรรค การรับสมัครสมาชิกพรรค คัดเลือกผู้สมัคร การระดมทุน และการบริหารจัดการทางการเงินทั้งหมด เป็นหน้าที่รับผิดชอบของนายสุภดิช อากาศฤกษ์ และทีมบริหารอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ดูแล บัดนี้ได้ผ่านพ้นการเลือกตั้งมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าจึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสม จึงขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่”

โดยการลาออกนี้เป็นการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังคงสถานะสมาชิกภาพของพรรคเศรษฐกิจใหม่ และตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบบัญชีรายชื่อ อนึ่งการที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนราษฎรในระบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด 5 คนนั้น ข้าพเจ้าและผู้แทนราษฎรทั้งหมด 5 คน จะรักษาคำมั่นสัญญาที่เคยได้ให้ไว้กับประชาชน ตามที่เคยได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนในทุกๆ โอกาส ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ ต่อ ชาติ ศาสนา และเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หนังสือลาออกฉบับนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2562 เป็นต้นไป

Back to top button