SNNP ลั่นกำไรปี 65 นิวไฮต่อ ปักธงยอดขาย 5 พันลบ.-จ่อตั้งบ.ร่วมทุนบุกตลาดตปท.

SNNP ลั่นกำไรปี 65 “นิวไฮ” ต่อเนื่อง ปักธงยอดขาย 5 พันลบ. เตรียมตั้งบริษัทร่วมทุนในไทยรุกสินค้านวัตกรรม-ตั้งโรงงานใหม่ในอินโดฯ สอดคล้องแผนบุกตลาดต่างประเทศ หนุนธุรกิจติดสปริง 


นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 ทั้งรายได้และกำไรน่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทลูกเริ่มออกดอกผล การจับจ่ายในประเทศเริ่มฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะที่ยอดขายในประเทศเวียดนามเติบโตอย่างโดดเด่นกลายเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยวางเป้ายอดขายปี 2565 ทะยานแตะ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะลงทุนในการเข้าซื้อหรือจัดตั้งธุรกิจที่เกี่ยวกับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อต่อยอดธุรกิจ ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/2564 ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว รวมไปถึงตลาดส่งออกในเวียดนามเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าไปทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมา ผลักดันให้ภาพรวมผลการดำเนินงานตลอดทั้งปี 2564 มีรายได้จากการขาย 4,277.10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 437.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343.30 ล้านบาท หรือ 366.00% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 93.80 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เมษายน 2565 และจ่ายเงินวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.10 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.24 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2564

พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติอนุมัติตั้งจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุน 2 บริษัท ในประเทศอินโดนีเซีย และในประเทศไทย โดยในส่วนของบริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซีย เป็นการขยายการลงทุนรองรับความต้องการของผู้บริโภค สอดคล้องแผนบุกตลาดต่างประเทศของบริษัทฯ นอกเหนือจากตลาดใน CLMV โดยมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ เพื่อผลิตสินค้าป้อนตลาดในอินโดนีเซีย เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผลิตและจำหน่ายสินค้าได้ในช่วงปลายปี 2565 นี้ ส่วนบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งใหม่ในไทย เป็นการร่วมลงทุนทำธุรกิจอาหารนวัตกรรม ซึ่งเป็นสินค้า High Margin คาดว่าจะดำเนินการผลิตสินค้าป้อนตลาดได้ในช่วงปลายปี 2565 เช่นกัน ซึ่งมั่นใจว่าทั้งสองบริษัทนี้ จะเป็นอีกกำลังสำคัญที่จะสนับสนุนธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 พร้อมทั้งงผลักดันรายได้และกำไรเติบโตนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง

“รายได้และกำไรในปี 2564 เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง มีปัจจัยสนับสนุนหลักคือตลาดภายในประเทศที่เริ่มดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งสถานการณ์โควิดคลี่คลาย กำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ขณะเดียวกับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนาม ก็พลิกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน และในอนคตเชื่อมั่นว่า SNNP ยังสามารถที่จะเติบโตได้มากกว่านี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มเติมจาก CLMV โดยล่าสุดที่ตัดสินจับมือพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซียจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อบุกตลาดอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรจำนวนมากกว่า 270 ล้านคน นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้กับบริษัทฯ และคาดว่าจะเริ่มเห็นผลได้ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป” นายวิวรรธน์ กล่าว

Back to top button