TIDLOR กางแผนปี 65 ลุยเปิด 300 สาขา เน้นทำเลศักยภาพหนุนลูกค้าเพิ่ม

TIDLOR รุกขยายสาขา ปีนี้ รวม 300 แห่ง เน้นขยายปั๊มในห้าง และคอมมูนิตี้มอลล์ เน้นทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม


นายศุภโชค อัครกุลยศ ผู้อำนวยการอาวุโส-บริหารงานขายสาขาและบริหารช่องทางการขาย ฝ่ายพัฒนาและบริหารงานขายสาขา บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทวางแผนขยายสาขาในพื้นที่ทั่วประเทศ 300 แห่ง จากสิ้นปีที่ผ่านมาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 1,286 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการและเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่นำมาใช้คือการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องภายในสถานีบริการน้ำมันชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ โดยวางแผนเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวรวม 80 แห่ง เน้นทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อวิเคราะห์ทำเลได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับในปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่เปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันชั้นนำต่างๆ แล้ว 28 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สถานีบริการน้ำมันบางจาก สถานีบริการน้ำมัน PT สถานีบริการน้ำมัน Caltex และสถานีบริการน้ำมัน IRPC โดยเปิดให้บริการทุกวัน (จันทร์ – อาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 09.00  18.00 น. ส่วนในปี 2565 วางแผนขยายสาขาภายในสถานีบริการน้ำมันชั้นนำต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อีก 40 แห่ง อาทิ สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, กาญจนบุรี, ชลบุรี, ชัยภูมิ สงขลา, เชียงราย ฯลฯ โดยในจำนวนนี้ 75% จะอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และอีก 25% จะอยู่ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก, PT และ Caltex

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด (บริษัทในเครือพีทีจี) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจพลังงานครบวงจร มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก PT Max Card ผู้ขอสินเชื่อทะเบียนรถจากเงินติดล้อผ่านแอปพลิเคชัน Max Rewards หรือเว็บไซต์ PT Max Card โดยสมาชิกจะได้รับ 100 คะแนน ต่อยอดจัดสินเชื่อทุกๆ 10,000 บาท ในแต่ละสัญญาแยกจากกัน (สูงสุดไม่เกิน 10,000 คะแนน ต่อสัญญาสินเชื่อ 1 สัญญา) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ถึง วันที่ 30 มิ.ย. 2565

ขณะเดียวกันบริษัทมีสาขาที่เปิดให้บริการภายในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์แล้วในปัจจุบันรวม 69 สาขา อาทิ โลตัส, บิ๊กซี, เดอะมอลล์, โรบินสัน, ซีเจมอร์ ฯลฯ โดยเปิดให้บริการทุกวัน (จันทร์ – อาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 10.30 – 20.00 น. ส่วนในปี 2565 วางแผนขยายสาขาภายในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มขึ้นอีก 40 สาขา ในจำนวนนี้จะอยู่ในพื้นที่โลตัส 50% ในบิ๊กซีอีกกว่า 10% ห้างสรรพสินค้าอื่นๆ และคอมมูนิตี้มอลล์กว่า 30%

“เรามองว่าการขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมันชั้นนำ ห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ จะเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งบริการด้านสินเชื่อทะเบียนรถยนต์และนายหน้าประกันภัยเช่นเดียวกับสาขาปกติ และยังสามารถเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด จึงสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย รวมถึงเดินทางมายังสถานที่เดียวและสามารถทำธุรกรรมด้านการเงินและใช้บริการร้านค้าอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าสามารถรับบริการทางการเงินที่มีมาตรฐาน เป็นธรรม และโปร่งใส จากเงินติดล้อได้สะดวกมากยิ่งขึ้น” นายศุภโชค กล่าว

Back to top button