VNG โกยรายได้ทะลัก 7.5 พันลบ. ดันกำไรครึ่งปีแรกโตทะลุ 677 ล้าน แจกปันผล 0.10 บาท

VNG ปิดงบครึ่งปีแรกกวาดรายได้กว่า 7,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28 % กำไรสุทธิ 677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  44 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางสงครามยูเครน-เศรษฐกิจโลกผันผวน-เงินเฟ้อพุ่ง บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.10 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่  22 สิงหาคม 2565  นี้


นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 7,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  28 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 677 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน เศรษฐกิจโลกผันผวน และปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากการทะยานตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแผนและกลยุทธ์ในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย ควบคู่กับการลดต้นทุนทั้งค่าพลังงาน และค่าขนส่งทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปันผล  ระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2565) ในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 สิงหาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 2 กันยายน 2565

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโต เนื่องจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ทำให้กำไรเติบโตอย่างโดดเด่น

ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างยูเครน กับรัสเซีย นอกจากนี้ เมื่อสถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มคลี่คลาย ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น จึงกลับมารุกตลาดค้าปลีกอีกครั้งก็เป็นช่องทางกระจายสินค้าของบริษัทให้เข้าสู่ทุกกลุ่มได้ทั่วถึงมากขึ้น

ขณะที่โรงงานผลิตไม้อัด OSB มีการปรับปรุงเครื่อง stander บดไม้ เพื่อลดต้นทุน โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 3/65 อีกทั้ง โรงงานผลิตไม้อัด Plywood จะเริ่มผลิตและจำหน่ายสินค้าได้ในไตรมาส 3/65 ในส่วนของ บริษัท วนชัย โลจิสติกส์ เริ่มดำเนินธุรกิจขนส่งแล้วตั้งแต่ไตรมาส ที่ 2/65 สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายด้านขนส่ง และเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม

สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการเดินเครื่องการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้กว่า 120 ล้านบาท/ปี อีกทั้ง ในครึ่งหลังของปีนี้ มีแผนขยายโครงการโซลาร์รูฟท็อปเฟสสอง เพิ่มเติมที่โรงงานจังหวัดสระบุรี กำลังผลิต 3.328 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้งบประมาณลงทุน 125 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/65

ทั้งนี้ หากรวมโครงการผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปที่โรงงานในจัดหวังดสระบุรี ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี จะมีกำลังผลิตรวมทั้งหมดเป็น 12.66 เมกะวัตต์ ในปลายปี 2565 ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการผลิตให้กับบริษัทฯ ได้กว่า 50 ล้านบาทต่อปี

Back to top button