AAV รอเก็บค่าธรรมเนียม “น้ำมันเส้นทางในปท.” ไตรมาส 4 ราว 200-250 บ./เที่ยว

AAV เตรียมเก็บค่าธรรมเนียม “น้ำมันเส้นทางในประเทศ ไตรมาส 4/65 ราว 200-250 บ./เที่ยว เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ลั่นเครื่องบินพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่ม


นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV กล่าวว่า ในไตรมาส 4/2565 ไทยแอร์เอเชียจะเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมัน (Fuel Surcharge) สำหรับเส้นทางในประเทศราว 200-250 บาทต่อเที่ยว เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องลดการรับภาระค่าใช้จ่าย และปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันล่วงหน้าเพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการเก็บค่า Fuel Surcharge ในไตรมาส 4/2565 จะทำให้ราคาตั๋วโดยสารในประเทศ (Fare) เพิ่มขึ้น 20-25% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีราคาตั๋วเฉลี่ย 1,404 บาท/เที่ยว

ขณะเดียวกันสายการบินไทยแอร์เอเชีย มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยในปีนี้มีจำนวนเครื่องบิน 53 ลำ แต่ใช้บินจริงแค่ 35 ลำในไตรมาส 3/2565 จึงยังมีศักยภาพที่จะนำเครื่องบินมาใช้เพิ่มเติมได้อีกในระยะต่อไป

นายสันติสุข กล่าวอีกว่า ทิศทางธุรกิจการบินในไตรมาส 4/2565 ที่ดีขึ้นทำให้ไทยแอร์เอเชียคาดว่าจะใช้เครื่องบินมากขึ้นเป็น 40-43 ลำ อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร 90% โดยเส้นทางในประเทศจะกลับมาบินได้ 100% ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศจะกลับมา 50-60% โดยรวมน่าจะกลับมาบินได้ 76% เทียบกับก่อนเกิดโควิด รอจีนเปิดประเทศก็คาดว่าน่าจะทำการบินได้เพิ่มขึ้น ทั้งในจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ซึ่งปัจจุบันไทยแอร์เอเชียบินไปจีนสัปดาห์ละ 2 เที่ยวไปยังหางโจวและเซิ่นเจิ้น

นอกจากนี้ จากที่ทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยราว 18-20 ล้านคน จากปีนี้ที่คาดไว้ 10 ล้านคน บนสมมุติฐานจีนเปิดประเทศทยอยเปิดประเทศ แต่หากเปิดให้เดินทางได้พร้อมกันทั่วประเทศก็คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะสูงถึง 30 ล้านคน เมื่อเทียบกับในปี 2562 ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน สัดส่วนนักท่องเที่ยวจีน 28% ซึ่งไทยแอร์เอเชียมีสัดส่วนรายได้จากผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจีน 30%

ขณะที่ในปัจจุบันผู้โดยสารต่างชาติ 3 ลำดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์  โดยสายการบินไทยแอร์เอเชียยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ราว 32% ในไตรมาสนี้ไทยแอร์เอเชียจะเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ, เชียงใหม่-ไทเป, เชียงใหม่-ฮานอย, เชียงใหม่-ดานัง คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี นอกจากนี้เตรียมเปิดเส้นทาง กรุงเทพ-กาญฐมาณฑุ, เนปาล ในเร็วๆนี้

“บริษัทมุ่งหวังสร้างรายได้มากขึ้นและต้นทุนให้มีน้อยที่สุดเพื่อให้สามารถทำกำไรได้ อย่างไรก็ตามในปี 66 ก็ยังกังวลนโยบายจีนจะเปิดประเทศเมื่อไหร่ และมีเงื่อนไขหรือไม่ และเศรษฐกิจโลกรวมเศรษฐกิจไทย ภาวะเงินเฟ้อ สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะยืดเยื้อต่อหรือไม่ รวมถึงทิศทางราคาน้ำมันที่จะมีผลกระทบต่อธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว”  นายสันติสุข กล่าว

อย่างไรก็ตาม ส่วนการระบาดโควิดระลอกใหม่ ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะได้เรียนรู้วิธีที่จะป้องกัน และอยู่ร่วมกับโควิดได้

 

Back to top button