KTMS ลงสนาม mai 23 ธ.ค.นี้ ระดมทุน 237 ลบ. ขยายเพิ่ม 14 สาขาทั่วประเทศ

KTMS เคาะราคาเสนอขาย IPO ที่ 3.10 บ. จ่อเข้าเทรด mai 23 ธ.ค.นี้ ระดมทุน 237 ลบ. ต่อยอดธุรกิจการให้บริการ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 14 แห่ง ทั่วประเทศ


บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Co-Underwriter) ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผย ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ KTMS ว่า ล่าสุดได้มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ KTMS ที่ระดับราคา 3.10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 37.29 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) โดยระดับราคาดังกล่าวถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่ออิงกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ สู่การเป็นหนึ่งในผู้นำการดำเนินธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างครบวงจร เป็นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับ KTMS เป็นหุ้นที่มีความโดดเด่น เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบ One-stop Services ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และที่สำคัญยังเป็นหลักทรัพย์รายแรกที่เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ครบวงจร

นอกจากนี้ KTMS ยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ อาทิ โครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐต่างๆ เช่น การสนับสนุนงบบริการผู้ป่วยเรื้อรัง จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ที่มีสิทธิสามารถร่วมตัดสินใจเลือกวิธีการล้างไต เป็นแบบฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมร่วมกับแพทย์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีจำนวนผู้ป่วยใช้บริการกับกลุ่มบริษัทฯมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงตอกย้ำถึงศักยภาพทางธุรกิจของ KTMS ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า การระดมทุนในครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการเปิดรับโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของ KTMS ในอนาคต

ด้าน นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดราคาในการเสนอขายที่ระดับราคา 3.10 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ทั้งนี้ KTMS เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 76.64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น  คิดเป็นร้อยละ 25.55 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น เป็นทุนที่ชำระแล้ว 111.68 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 223.36 ล้านหุ้น โดยจะเปิดให้ผู้ถือหุ้น บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นตามสิทธิ Pre-emptive จองซื้อระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม ขณะที่นักลงทุนทั่วไปจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2565 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ ภายใต้ชื่อย่อ KTMS ภายในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 นี้

โดย KTMS เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบ One-stop Services ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล โดยมีทีมวิศวกร ทีมแพทย์ และพยาบาลไตเทียมที่มีคุณภาพ มีความชำนาญ และเชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายใต้การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (Stand-Alone) และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล (Outsource) ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ และกลุ่มลูกค้าเอกชน โดยปัจจุบัน “KTMS” มีเครื่องไตเทียมรวม จำนวน 254 เครื่อง มีหน่วยไตเทียม จำนวน 20 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ แบ่งออกเป็นหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล จำนวน 17 สาขา และคลินิกเวชกรรมไตเทียม จำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร 2 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคเหนือ 4 สาขา ภาคตะวันออก 2 สาขา และภาคตะวันตก 2 สาขา

ทั้งนี้ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน มีความเชื่อมั่นว่า หุ้น KTMS เป็นหุ้น IPO น้องใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจาก KTMS เป็นหุ้นที่มีรายได้มั่นคง และมีอัตราการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ KTMS จัดอยู่ในประเภทหุ้น ESG ที่มีความยั่งยืนต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้น และ นักลงทุนในแง่ของผลตอบแทนทางการเงิน และยังถือว่าเป็นหุ้นที่ให้ความสำคัญทางด้านสังคมอีกด้วย ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น KTMS สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTMS เปิดเผยว่า จากศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ บริษัทฯ ยังคงมีโอกาสเติบโตในธุรกิจการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของภาครัฐ และจำนวนผู้ป่วยที่ใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมีการทำงานของไตเสื่อมลง จึงส่งผลให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย ก็เป็นส่วนหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรัง โดยจะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยดังกล่าว ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงบวกให้ KTMS มีอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้เฉลี่ยประมาณ 30% ต่อปี ด้วยจุดเด่นของ KTMS ภายใต้วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตไปข้างหน้า ด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดจากความหวัง ภายใต้แนวคิด “Inspiration from HOPE” ส่งผลให้บริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบ One-stop Services ซึ่งถือเป็นผู้นำ ที่ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพียงไม่กี่ราย ที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร ภายใต้คุณภาพในการให้บริการที่เป็นเลิศ โดยมีทีมแพทย์ ทีมพยาบาลระดับเชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคไตเทียม และทีมวิศวกร ที่มีคุณภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 15 ปี

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งมีการต่อสัญญาการให้บริการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 5 ปี รวมถึงบริษัทย่อยที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตน้ำสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และระบบบำบัดน้ำเสีย มากว่า 20 ปี จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีคุณภาพ

อย่างไรก็ตามสำหรับเม็ดเงินที่ได้จากระดมทุนในครั้งนี้ กว่า 237 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปต่อยอดธุรกิจการให้บริการ เพื่อใช้ลงทุนในสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 155 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่ม 14 แห่ง ทั่วประเทศ แบ่งเป็น Outsource 8 สาขา และ 6 สาขา ที่เป็น Stand Alone ซึ่งจะทำให้มีจำนวนเครื่องไตเทียม เพิ่มขึ้น 123 เครื่อง นอกจากนี้ ยังใช้ลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 61 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายขอบเขตการให้บริการที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

Back to top button